ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - นายกเหล่ากาชาด จ.สงขลา เยี่ยมหญิงป่วยด้วยโรคอ้วน อาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง14 วัน ลดได้ 24 กิโลกรัม แต่ยังคงเฝ้าระวังภาวะโรคแทรกซ้อน แพทย์ตั้งเป้าลดน้ำหนักสัปดาห์ละ 0.5-1.0 กิโลกรัม เน้นการออกกำลังกายและทำกายภาพบำบัด
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.นางศิริวรรณ ทองสกุล นายกเหล่ากาชาด จ.สงขลา พร้อมคณะ เข้าเยี่ยม นางพิกุล รัตนพงษ์ อายุ 40 ปี หรือ พี่หญิง ชาว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา อดีตช่างเสริมสวยที่ป่วยด้วยโรคอ้วนน้ำหนัก 172 กิโลกรัม จากอาการผิดปกติของต่อมไร้ท่อ และขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิงโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ พร้อมมอบเงินและกระเช้าของขวัญเพื่อเป็นกำลังใจในการรักษาตัวให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
สำหรับความคืบหน้าของอาการ แพทย์เผยว่า ขณะนี้โดยรวมดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสามารถเดินได้แล้ว และน้ำหนักตัวลดลง 24 กิโลกรัม ภายในเวลา 14 วัน หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จากน้ำหนักตัว 172 กิโลกรัม ขณะนี้เหลือ 148 กิโลกรัม แต่แพทย์ยังคงให้ออกซิเจนตลอดเวลาเพื่อช่วยในการหายใจ และเพิ่มออกซิเจนในร่างกายที่ค่อนข้างต่ำ
รวมทั้งยังคงต้องรักษาอาการข้างเคียงจากภาวะโรคแทรกซ้อน เช่น โรคเบาหวาน ความดัน กล้ามเนื้อหัวใจโต ปอดติดเชื้อ ความดันในปอดสูง ส่วนแผนการรักษาหลังจากนี้แพทย์ยังคงเน้นในเรื่องของการควบคุมน้ำหนักโดยจะให้ลดอย่างช้าๆ สัปดาห์ละ 0.5-1.0 กิโลกรัม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับร่างกาย รวมทั้งเน้นการละลายไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยการเดินและทำกายภาพบำบัด
วันนี้ (7 มิ.ย.) เมื่อเวลา 14.00 น.นางศิริวรรณ ทองสกุล นายกเหล่ากาชาด จ.สงขลา พร้อมคณะ เข้าเยี่ยม นางพิกุล รัตนพงษ์ อายุ 40 ปี หรือ พี่หญิง ชาว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา อดีตช่างเสริมสวยที่ป่วยด้วยโรคอ้วนน้ำหนัก 172 กิโลกรัม จากอาการผิดปกติของต่อมไร้ท่อ และขณะนี้ยังคงพักรักษาตัวอยู่ที่หอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิงโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ พร้อมมอบเงินและกระเช้าของขวัญเพื่อเป็นกำลังใจในการรักษาตัวให้กลับมาแข็งแรงเหมือนเดิม
สำหรับความคืบหน้าของอาการ แพทย์เผยว่า ขณะนี้โดยรวมดีขึ้นอย่างต่อเนื่องสามารถเดินได้แล้ว และน้ำหนักตัวลดลง 24 กิโลกรัม ภายในเวลา 14 วัน หลังเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จากน้ำหนักตัว 172 กิโลกรัม ขณะนี้เหลือ 148 กิโลกรัม แต่แพทย์ยังคงให้ออกซิเจนตลอดเวลาเพื่อช่วยในการหายใจ และเพิ่มออกซิเจนในร่างกายที่ค่อนข้างต่ำ
รวมทั้งยังคงต้องรักษาอาการข้างเคียงจากภาวะโรคแทรกซ้อน เช่น โรคเบาหวาน ความดัน กล้ามเนื้อหัวใจโต ปอดติดเชื้อ ความดันในปอดสูง ส่วนแผนการรักษาหลังจากนี้แพทย์ยังคงเน้นในเรื่องของการควบคุมน้ำหนักโดยจะให้ลดอย่างช้าๆ สัปดาห์ละ 0.5-1.0 กิโลกรัม เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับร่างกาย รวมทั้งเน้นการละลายไขมันส่วนเกินตามส่วนต่างๆ ของร่างกายโดยการเดินและทำกายภาพบำบัด