นราธิวาส - ผู้บังคับการตำรวจน้ำ 7 จ.สงขลา ประสานสถานทูตเวียดนาม ให้ช่วยเร่งติดตามตัว “ด.ต.อดุลนา ยูโซะ” ที่หายตัวไปพร้อมกับเรือประมงของกลางสัญชาติเวียดนาม กลับประเทศไทยอย่างเร่งด่วน
จากกรณี พ.ต.ท.ฟุ้ง ชัยนนท์นอก สารวัตรตำรวจน้ำนราธิวาส ได้นำเรือตรวจการณ์ออกลาดตระเวนจับกุมเรือประมงชาวต่างชาติที่ล้ำเขตแดนเข้ามาลักลอบทำการประมงในทะเลอ่าวไทย บริเวณหน้าน่านน้ำ จ.นราธิวาส และสามารถจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนามได้ 3 ลำ พร้อมลูกเรือประมงชาวเวียดนามอีกประมาณ 40-60 คน แต่เมื่อคุมเรือประมงของกลางและลูกเรือประมงกลับเข้ามาถึงฝั่งแล้ว
จึงพบว่า เรือประมงของกลางลำหนึ่ง ซึ่งมี ด.ต.อดุลนา ยูโซะ พนักงานประจำเรือตรวจการณ์ หมายเลข 518 ซึ่งเป็นผู้ควบคุมเรือกลับเข้าฝั่งได้หายไป จากนั้น พ.ต.ท.ฟุ้ง ชัยนนท์นอก สารวัตรตำรวจน้ำนราธิวาส ได้พยายามนำเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำ ออกติดตามค้นหาตัว ด. ต.อดุลนา และเรือประมงสัญชาติเวียดนามของกลางที่หายไป ตั้งแต่หลังเกิดเหตุเมื่อคืนวันที่ 30 พฤษภาคม จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 5 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่พบตัว ด.ต.อดุลนา แต่อย่างใด
ล่าสุด ในวันนี้ (3 มิ.ย.) พ.ต.อ.จตุรงค์ ผ่องอำพันธุ์ ผู้กำกับการ 7 กองบังการตำรวจน้ำ จ.สงขลา ซึ่งได้เดินทางมายังสำนักงานตำรวจน้ำนราธิวาส เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อกำกับในการติดตามตัว ด.ต.อดุลนา ยูโซะ กล่าวว่า จากการสอบถามนายหว่าง ไต้ก๋งเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ถึงเรือประมงของกลางที่หายไปกลางทะเลนั้น ทำให้ทราบว่าในวันนี้ลูกเรือประมงลำดังกล่าวได้โทรศัพท์กลับมาถึงบุตรชาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ตำรวจน้ำนราธิวาสจับกุมตัวไว้ได้ในเรือประมงสัญชาติเวียดนามอีกลำหนึ่ง โดยแจ้งว่าได้นำเรือประมงของกลาง พร้อมด้วยลูกเรือประมงรวม 5 คนกลับเข้าฝั่งที่เกาะแหลมญวน ประเทศเวียดนาม แล้ว
ส่วน ด.ต.อดุลนา ตำรวจน้ำนราธิวาส ผู้ควบคุมเรือประมงของกลางที่หายตัวไปนั้น ลูกเรือได้ส่งให้ขึ้นเรือประมงอวนลากสัญชาติเวียดนามอีกลำหนึ่ง ที่กำลังทำการประมงอยู่ในทะเลเพื่อกลับเข้าฝั่งประเทศไทยแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากเรือประมงที่ถูกจับกุมนั้นขัดข้อง และหลังจากทำการซ่อมแซมเครื่องยนต์จนใช้งานได้แล้ว จึงได้นำเรือประมงของกลางแล่นกลับไปขึ้นฝั่งที่เกาะแหลมญวน ประเทศเวียดนาม
นอกจากนี้ พ.ต.อ.จตุรงค์ ผ่องอำพันธ์ ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจ จ.สงขลา ได้กล่าวถึงแนวทางการติดตามตัว ด.ต.อดุลนา ที่หายตัวไปเป็นเวลา 5 วันแล้วด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ตนได้ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาในกองบังคับการตำรวจน้ำ แจ้งให้สถานทูตประเทศไทย ประสานไปยังสถานทูตประเทศเวียดนาม เพื่อให้ช่วยติดตามตัว ด.ต.อดุลนา อีกทางหนึ่งอย่างเร่งด่วนแล้ว
จากกรณี พ.ต.ท.ฟุ้ง ชัยนนท์นอก สารวัตรตำรวจน้ำนราธิวาส ได้นำเรือตรวจการณ์ออกลาดตระเวนจับกุมเรือประมงชาวต่างชาติที่ล้ำเขตแดนเข้ามาลักลอบทำการประมงในทะเลอ่าวไทย บริเวณหน้าน่านน้ำ จ.นราธิวาส และสามารถจับกุมเรือประมงสัญชาติเวียดนามได้ 3 ลำ พร้อมลูกเรือประมงชาวเวียดนามอีกประมาณ 40-60 คน แต่เมื่อคุมเรือประมงของกลางและลูกเรือประมงกลับเข้ามาถึงฝั่งแล้ว
จึงพบว่า เรือประมงของกลางลำหนึ่ง ซึ่งมี ด.ต.อดุลนา ยูโซะ พนักงานประจำเรือตรวจการณ์ หมายเลข 518 ซึ่งเป็นผู้ควบคุมเรือกลับเข้าฝั่งได้หายไป จากนั้น พ.ต.ท.ฟุ้ง ชัยนนท์นอก สารวัตรตำรวจน้ำนราธิวาส ได้พยายามนำเรือตรวจการณ์ตำรวจน้ำ ออกติดตามค้นหาตัว ด. ต.อดุลนา และเรือประมงสัญชาติเวียดนามของกลางที่หายไป ตั้งแต่หลังเกิดเหตุเมื่อคืนวันที่ 30 พฤษภาคม จนถึงวันนี้ เป็นเวลา 5 วันแล้ว แต่ก็ยังไม่พบตัว ด.ต.อดุลนา แต่อย่างใด
ล่าสุด ในวันนี้ (3 มิ.ย.) พ.ต.อ.จตุรงค์ ผ่องอำพันธุ์ ผู้กำกับการ 7 กองบังการตำรวจน้ำ จ.สงขลา ซึ่งได้เดินทางมายังสำนักงานตำรวจน้ำนราธิวาส เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เพื่อกำกับในการติดตามตัว ด.ต.อดุลนา ยูโซะ กล่าวว่า จากการสอบถามนายหว่าง ไต้ก๋งเรือประมงสัญชาติเวียดนาม ถึงเรือประมงของกลางที่หายไปกลางทะเลนั้น ทำให้ทราบว่าในวันนี้ลูกเรือประมงลำดังกล่าวได้โทรศัพท์กลับมาถึงบุตรชาย ซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ตำรวจน้ำนราธิวาสจับกุมตัวไว้ได้ในเรือประมงสัญชาติเวียดนามอีกลำหนึ่ง โดยแจ้งว่าได้นำเรือประมงของกลาง พร้อมด้วยลูกเรือประมงรวม 5 คนกลับเข้าฝั่งที่เกาะแหลมญวน ประเทศเวียดนาม แล้ว
ส่วน ด.ต.อดุลนา ตำรวจน้ำนราธิวาส ผู้ควบคุมเรือประมงของกลางที่หายตัวไปนั้น ลูกเรือได้ส่งให้ขึ้นเรือประมงอวนลากสัญชาติเวียดนามอีกลำหนึ่ง ที่กำลังทำการประมงอยู่ในทะเลเพื่อกลับเข้าฝั่งประเทศไทยแล้ว ทั้งนี้ เนื่องจากเรือประมงที่ถูกจับกุมนั้นขัดข้อง และหลังจากทำการซ่อมแซมเครื่องยนต์จนใช้งานได้แล้ว จึงได้นำเรือประมงของกลางแล่นกลับไปขึ้นฝั่งที่เกาะแหลมญวน ประเทศเวียดนาม
นอกจากนี้ พ.ต.อ.จตุรงค์ ผ่องอำพันธ์ ผู้กำกับการ 7 กองบังคับการตำรวจ จ.สงขลา ได้กล่าวถึงแนวทางการติดตามตัว ด.ต.อดุลนา ที่หายตัวไปเป็นเวลา 5 วันแล้วด้วยว่า เมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ตนได้ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาในกองบังคับการตำรวจน้ำ แจ้งให้สถานทูตประเทศไทย ประสานไปยังสถานทูตประเทศเวียดนาม เพื่อให้ช่วยติดตามตัว ด.ต.อดุลนา อีกทางหนึ่งอย่างเร่งด่วนแล้ว