ตรัง - แม่ค้าขายไก่สดโอดหลังราคาขายปลีกไก่สดในตลาดเทศบาลนครตรังปรับตัวสูงขึ้น หลังบริษัทขายส่งอ้างว่าเป็นความจำเป็นเพราะค่าอาหารแพงขึ้น ทำให้แผงจำหน่ายต้องดิ้นรนทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอด
วันนี้ (31 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรัง ได้เดินทางไปสำรวจสถานการณ์การซื้อขายไก่สด ภายในตลาดสดเทศบาลนครตรัง หลังจากที่กระทรวงพาณิชย์ ออกมาระบุว่า ในส่วนของพื้นที่ภาคใต้มีราคาสูงสุด ทั้งนี้ยังคงมีประชาชนไปหาซื้อไก่สดจากแผงจำหน่ายต่างๆ มาบริโภคเหมือนเดิม เพียงแต่บรรยากาศไม่ค่อยจะคึกคักเหมือนเช่นเมื่อครั้งในอดีต เนื่องจากประชาชนจะซื้อหาไก่สดในปริมาณที่ลดลงจากเดิม อันเนื่องมาจากกำลังซื้อที่มีอยู่อย่างจำกัด และราคาสินค้าอื่นๆ ก็พุ่งสูงขึ้นเช่นกัน ขณะที่รายรับหรือรายได้ยังมีจำนวนคงที่เท่าเดิม
นางวนิดา ไกรนรา หรือเจ๊เปีย แม่ค้าแผงจำหน่ายไก่สดรายใหญ่แห่งหนึ่งภายในตลาดสดเทศบาลนครตรัง ระบุว่า ราคาขายปลีกไก่สดชนิดทั้งตัว เมื่อช่วงต้นปี 2554 อยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท จากนั้นช่วงตั้งแต่เดือนเมษายน หรือเป็นระยะเวลานานกว่า 2 เดือนแล้วที่ราคาขายปลีกไก่สดได้ปรับตัวสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 90 บาท โดยบริษัทที่ส่งเนื้อไก่มาให้จำหน่ายอ้างว่าเป็นเพราะค่าอาหารแพงขึ้น จึงจำเป็นต้องปรับราคาขายส่งไก่สดเป็นกิโลกรัมละ 80 บาท ทำให้แผงจำหน่ายต่างๆ จำต้องปรับราคาขายปลีกขึ้นตามเพื่อความอยู่รอด
นอกจากนั้นยังส่งผลไปถึงราคาไก่สดชนิดเนื้อล้วนๆ 100% ซึ่งก็ต้องปรับขึ้นจากกิโลกรัมละ 100 บาท เป็นกิโลกรัมละ 130 บาท ถือเป็นการราคาไก่สดที่แพงที่สุดนับตั้งแต่ตนเปิดแผงจำหน่ายมากว่า 10 ปี และยังไม่อาจจะวิเคราะห์ได้ว่าจะต้องปรับขึ้นอีกหรือไม่ในอนาคต แต่ตนเองก็พยายามที่จะตรึงราคาเช่นนี้ต่อไปให้นานที่สุด โดยเฉพาะลูกค้าขาประจำ จะลดราคาขายปลีกไก่สดชนิดทั้งตัว ให้เหลือแค่กิโลกรัมละ 85 บาท และจะลดราคาไก่สดชนิดเนื้อล้วนๆ 100% ให้เหลือแค่กิโลกรัมละ 125 บาท เพื่อให้มีผลกระทบต่อลูกค้าน้อยที่สุด
“ปี 2554 นี้ธุรกิจการค้าขายสาหัสสากรรจ์ค่อนข้างมาก อย่างไก่สดบางช่วงราคาขายส่งปรับขึ้นแบบรายวันๆ ละ 2-3 บาท แต่แผงจำหน่ายอย่างพวกตนจะมาปรับขึ้นราคาขายปลีกแบบทันทีไม่ได้ และบางครั้งต้องยอมเจ็บตัวรับกับภาวะขาดทุนเป็นพันๆ หมื่นๆ บาท เพื่อรักษาลูกค้าเอาไว้มิให้เสียความรู้สึก และรอจนถึงจุดจริงๆ จึงค่อยขอปรับขึ้น แต่โชคดีที่ลูกค้าต่างก็มีความเข้าใจและยังมาซื้อหาไก่สดเหมือนเดิม จึงอยากฝากให้ใครก็ได้ที่มาเป็นรัฐบาลชุดใหม่ ช่วยแก้ไขปัญหาข้าวของแพงอย่างที่เกิดขึ้นในขณะนี้โดยเร็ว” นางวนิดา กล่าว