นครศรีธรรมราช - คนร้ายโหดบุกกลางดึกฟันคอสังหารพระสงฆ์ในวัดจันทร์ ต.กำโลน อ.ลานสกา พบเป็นญาติ “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ตำรวจมึนปมพบบวชได้แค่ 2 ปี เชื่อเรื่องเก่าอริตามย่องสังหาร
วันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.ท.บัญชา กิจภักดี สารวัตรเวร สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆาตกรรมพระภิกษุภายในกุฏิบนศาลาบำเพ็ญกุศลศพ ติดกับป่าช้าวัดจันทร์ ม.3 ต.กำโลน อ.ลานสกา หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุตรีธา อ่อนสด ผกก. พ.ต.ท.นิติ บุญจันทร์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พิสิษฐ์ ปิยะทัต รอง ผกก.ป. กำลังสายตรวจ ชุดสืบสวน และแพทย์เวรชันสูตรโรงพยาบาลลานสกา เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิที่ถูกกั้นแบ่งจากศาลาการเปรียญสำหรับบำเพ็ญกุศลศพข้างป่าช้าของวัดภายในกุฏิพบศพพระชัยณรงค์ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 41 ปี เป็นพระลูกวัดดังกล่าว บ้านเดิมเลขที่ 115 ม.10 ต.ละอาย อ.ฉวาง นครศรีธรรมราช เป็นเครือญาติกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี สภาพศพมรณภาพอย่างสยดสยอง ลำคอมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเกือบขาด เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือรื้อค้นทรัพย์สิน
พ.ต.ท.นิติ บุญจันทร์ รอง ผกก.สส.สภ.ลานสกา เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ช่วงค่ำของวานนี้พบว่าพระชัยณรงค์ ได้เข้ากุฏิตั้งแต่ช่วงค่ำ จนกระทั่งช่วงเช้าพระลูกวัดรูปอื่นๆ ไม่เห็นพระชัยณรงค์ออกไปบิณฑบาตเช่นปกติทุกวัน เข้าใจว่าอาพาธจึงปล่อยให้จำวัดต่อไป จนกระทั่งเวลา 09.30 น.เห็นว่านานผิดปกติจึงไปเปิดประตูกุฏิดู พบว่าพระชัยณรงค์มรณภาพอยู่แล้ว และเมื่อชันสูตรแพทย์ยืนยันว่ามรณภาพมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ชม.
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด เชื่อว่าคนร้ายได้เข้ามาเพื่อประสงค์ต่อชีวิตพระชัยณรงค์เพียงอย่างเดียว ทรัพย์สินที่มีอยู่เล็กน้อยคนร้ายไม่แตะต้อง รวมทั้งย่ามและสิ่งอื่นๆ ยังอยู่ครบ เข้าใจว่าขณะที่พระชัยณรงค์กำลังจำวัด คนร้ายได้ลอบเข้ามาจนถึงตัวแล้วใช้ของมีคมฟันคอเพียงแผลเดียวจนคอหวิดขาดมรณภาพทันทีแล้วหลบหนีไป
เบื้องต้นพบว่า พระชัยณรงค์ได้มาอุปสมบทที่วัดนี้ได้เพียง 2 ปี สำหรับสาเหตุนั้นยังไม่ทราบแต่สันนิษฐานได้ว่า พระชัยณรงค์อาจมีเรื่องโกรธแค้นกับใครมาก่อน หรืออาจจะมีความขัดแย้งกับคู่อริ จนกระทั่งได้หลบมาอุปสมบทเพื่อหลีกหนีทางโลก จนคู่แค้นรู้ว่ามาเป็นพระอยู่ที่วัดที่เกิดเหตุ จึงตามมาก่อเหตุฆาตกรรมโดยไม่เว้นแม้กระทั่งอยู่ในเพศบรรพชิตแล้ว
ในประเด็นนี้พนักงานสอบสวน กำลังสอบปากคำญาติสนิทของพระชัยณรงค์ เพื่อหาข้อมูลแรงจูงใจเพื่อเป็นแนวทางในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากคดีนี้เป็นที่สะเทือนขวัญของชาวบ้านในย่านนั้น
วันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น. พ.ต.ท.บัญชา กิจภักดี สารวัตรเวร สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุฆาตกรรมพระภิกษุภายในกุฏิบนศาลาบำเพ็ญกุศลศพ ติดกับป่าช้าวัดจันทร์ ม.3 ต.กำโลน อ.ลานสกา หลังจากนั้นจึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุตรีธา อ่อนสด ผกก. พ.ต.ท.นิติ บุญจันทร์ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.พิสิษฐ์ ปิยะทัต รอง ผกก.ป. กำลังสายตรวจ ชุดสืบสวน และแพทย์เวรชันสูตรโรงพยาบาลลานสกา เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิที่ถูกกั้นแบ่งจากศาลาการเปรียญสำหรับบำเพ็ญกุศลศพข้างป่าช้าของวัดภายในกุฏิพบศพพระชัยณรงค์ วงศ์สวัสดิ์ อายุ 41 ปี เป็นพระลูกวัดดังกล่าว บ้านเดิมเลขที่ 115 ม.10 ต.ละอาย อ.ฉวาง นครศรีธรรมราช เป็นเครือญาติกับนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี สภาพศพมรณภาพอย่างสยดสยอง ลำคอมีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมเกือบขาด เลือดสาดกระเซ็นไปทั่ว ในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือรื้อค้นทรัพย์สิน
พ.ต.ท.นิติ บุญจันทร์ รอง ผกก.สส.สภ.ลานสกา เปิดเผยว่า จากการรวบรวมข้อมูลตั้งแต่ช่วงค่ำของวานนี้พบว่าพระชัยณรงค์ ได้เข้ากุฏิตั้งแต่ช่วงค่ำ จนกระทั่งช่วงเช้าพระลูกวัดรูปอื่นๆ ไม่เห็นพระชัยณรงค์ออกไปบิณฑบาตเช่นปกติทุกวัน เข้าใจว่าอาพาธจึงปล่อยให้จำวัดต่อไป จนกระทั่งเวลา 09.30 น.เห็นว่านานผิดปกติจึงไปเปิดประตูกุฏิดู พบว่าพระชัยณรงค์มรณภาพอยู่แล้ว และเมื่อชันสูตรแพทย์ยืนยันว่ามรณภาพมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 ชม.
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างละเอียด เชื่อว่าคนร้ายได้เข้ามาเพื่อประสงค์ต่อชีวิตพระชัยณรงค์เพียงอย่างเดียว ทรัพย์สินที่มีอยู่เล็กน้อยคนร้ายไม่แตะต้อง รวมทั้งย่ามและสิ่งอื่นๆ ยังอยู่ครบ เข้าใจว่าขณะที่พระชัยณรงค์กำลังจำวัด คนร้ายได้ลอบเข้ามาจนถึงตัวแล้วใช้ของมีคมฟันคอเพียงแผลเดียวจนคอหวิดขาดมรณภาพทันทีแล้วหลบหนีไป
เบื้องต้นพบว่า พระชัยณรงค์ได้มาอุปสมบทที่วัดนี้ได้เพียง 2 ปี สำหรับสาเหตุนั้นยังไม่ทราบแต่สันนิษฐานได้ว่า พระชัยณรงค์อาจมีเรื่องโกรธแค้นกับใครมาก่อน หรืออาจจะมีความขัดแย้งกับคู่อริ จนกระทั่งได้หลบมาอุปสมบทเพื่อหลีกหนีทางโลก จนคู่แค้นรู้ว่ามาเป็นพระอยู่ที่วัดที่เกิดเหตุ จึงตามมาก่อเหตุฆาตกรรมโดยไม่เว้นแม้กระทั่งอยู่ในเพศบรรพชิตแล้ว
ในประเด็นนี้พนักงานสอบสวน กำลังสอบปากคำญาติสนิทของพระชัยณรงค์ เพื่อหาข้อมูลแรงจูงใจเพื่อเป็นแนวทางในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เนื่องจากคดีนี้เป็นที่สะเทือนขวัญของชาวบ้านในย่านนั้น