xs
xsm
sm
md
lg

หญิงม่ายโร่ร้องสื่อ ทหารขับยูนิม็อปบี้สามี-ลูกดับ ไร้การช่วยเหลือนาน 2 เดือน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางยูรา มะเย็ง ร้องสื่อถึงเหตุทหารรับปากจะช่วยเหลือครอบครัว หลังจากเกิดอุบัติเหตุทำให้สามีและลูกเสียชีวิต แต่นาน 2 เดือนแล้วที่เรื่องต่างๆ เงียบหาย
นราธิวาส - นางยูรา มะเย็ง เข้าร้องสื่อกรณีถูกทหารขับรถยนต์ยูนิม็อปเหยียบรถซาเล้งพ่วง ทำให้สามีและลูกเสียชีวิต แต่ผ่านไป 2 เดือนได้รับการดูแลแค่เงินฝังศพเพียง 3,000 บาท ทั้งที่รับปากจะดูแลหลายอย่าง ล่าสุด พลทหารที่ก่อเหตุได้ย้ายกลับฐานแล้ว

วันนี้ (18 พ.ค.) เมื่อเวลา 15.00 น. นางยูรา มะเย็ง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 27/1 ม.1 ต.ปูโยะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ได้เดินทางมาร้องทุกข์ต่อสื่อมวลชนด้วยน้ำตานองหน้า ว่า เมื่อวันที่ 22 มี.ค.2554 ที่ผ่านมา เวลา 15.00 น.นายมะรีเป็ง สาและ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นสามี ได้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีบรอนซ์ ทะเบียน กมล 214 นราธิวาส โดยมี ด.ช.มูอำหมัดฮากีมี สะมะแอ อายุ 5 ปี บุตรชาย นั่งคู่กันไปเพื่อบรรทุกของส่งให้ตนนำไปขายที่โรงเรียนบุณญลาภนฤมิต ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก

แต่ในระหว่างที่สามีขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างไปตามถนนสายตากใบ-สุไหงโก-ลก เมื่อถึงบริเวณบ้านลูโบะกง ม.3 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก ได้ถูกรถยนต์ยูนิม็อปของเจ้าหน้าที่ทหารสังกัด ฉก.นราธิวาส 36 ซึ่งมี ส.อ.ชาติชาย ไปบน เป็นพลขับ ได้ขับรถชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของสามีและลูกชายที่นั่งอยู่ จนรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหายทั้งคัน ลูกชายเสียชีวิตคาที ส่วนสามีได้รับบาดเจ็บสาหัส และได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ จ.ยะลา โดยสามีไปนอนรักษาตัวได้ 7 วัน ก็ต้องเสียชีวิตลง

โดย นางยูรา ได้เปิดเผยอีกด้วยว่า ในวันเกิดเหตุ ส.อ.ชาติชาย พลขับได้ประสานไปยังผู้บังคับบัญชาระดับสูงของต้นสังกัด โดยผู้บังคับบัญชาซึ่งไม่ทราบชื่อ รับปากกับตนว่าจะให้การชดใช้ทุกอย่าง แถมในระหว่างการเดินทางไปร่วมงานศพบุตรชายผู้บังคับบัญชาระดับของ ส.อ.ชาติชาย ซึ่งเป็นพลขับ ได้มอบเงินช่วยเหลือค่าฝังศพเป็นเงิน 3,000 บาท แถมยังเอ่ยปากอีกด้วยว่าบ้านที่อาศัยอยู่ทางทหารจะช่วยสร้างให้ใหม่ เพื่อเป็นการทดแทนที่ต้องสูญเสียเสาหลักของครอบครัวไป แต่เมื่อเวลาผ่านไป 2 เดือน ผู้บังคับบัญชาของ ส.อ.ชาติชาย กลับเงียบหายไปไม่เคยทำตามที่พูดไว้ แถม ส.อ.ชาติชาย ปัจจุบันก็ถูกส่งตัวกลับฐานที่ตั้งแล้ว

ตนนึกถึงเรื่องนี้ทีไรใจมันหดหู่ ทหารพูดแล้วไม่รักษาคำพูด คิดว่า เอาเงินมาฟาดหัว 100,000 บาทแล้ว เรื่องมันจบ แต่ตนในฐานะคนหาเช้ากินค่ำ แถมลูกที่เหลืออีก 1 คน ต้องเรียนหนังสือเปิดเทอมต้องใช้เงินเท่าไร ผ่านไป 2 เดือนแล้วยังไม่สามารถที่จะขายของได้เลยสักบาทเดียว เพราะไม่มีรถพ่วงข้างคู่ใจ ตนจึงมาร้องเรียนผ่านสื่อไปยังแม่ทัพภาค 4 ช่วยดูแลรับผิดชอบลูกน้องของท่านที่ทำกับชาวบ้านด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น