นครศรีธรรมราช - ชรบ.ปืนโหดรัวยิงครูสาวอดีตภรรยาพร้อมพ่อตา 22 นัดปางตาย หลังแค้นลวงให้แต่งงานด้วยมาได้ 2 เดือน แต่ตอนหลังฝ่ายครูสาวรู้ความจริงว่ามีเมียอยู่แล้วเลยบอกเลิกอย่างเด็ดขาด
ค่ำวันที่ 9 พ.ค. พ.ต.ท.ภิรมย์ เรืองรุ่ง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันบริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลเจริญจิต ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฏร์ธานี ใกล้กับกองร้อย ตชด.ที่ 424 หมู 13 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จึงพร้อมด้วยกำลังตำรวจสายตรวจ สายสืบรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้เห็นเหตุการณ์หลายราย บริเวณลานจอดรถหน้าโรงเรียนพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บล-2503 นครศรีธรรมราช กระจกหน้าและกระจกหลังถูกกระสุนจนเป็นรูพรุนหลายแห่ง โดยกระจกหลังแตกกระจายเกลื่อนบริเวณ บนที่นั่งพบเลือดเปรอะหลายจุด นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่เกลื่อนกลาดจำนวน 22 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นได้ทราบว่าเป็นญาติใกล้ชิดกับ พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ชุติมา สุวรรณรัตน์ อายุ 31 ปี ครูสอนโรงเรียนอนุบาลเจริญจิต ที่เกิดเหตุอยู่บ้านเลขที่ 3/5 หมู่ 5 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และนายวินิจ สุวรรณรัตน์ อายุ 65 ปี บิดาของนางสาวชุติมา เบื้องต้นพบว่านางสาวชุติมาถูกยิงเฉี่ยวบริเวณแขน และมีบาดแผลถูกกระจกรถยนต์บาดที่แขนทั้งสองข้างได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ในขณะที่นายวินิจ บิดา ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ศีรษะ 1 นัด ชายโครงซ้าย 1 นัด อาการสาหัส
ส่วนผู้ก่อเหตุรายนี้ทราบชื่อต่อมาคือ นายปรีชา บุญเชิด อายุ 31 ปี เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความเรียบร้อยประจำ อบต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และเป็นอดีตสามีของ น.ส.ชุติมา หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน บร-4438 นครศรีธรรมราช หลบหนีไปทาง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
เจ้าหน้าที่คาดว่านายปรีชามือปืนจะขับรถยนต์หลบหนีกลับบ้านในพื้นที่ ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยุสกัดจับทกเส้นทางแต่ เนื่องจากนายปรีชาพกพาวิทยุมือถือคอยดักฟังความถี่ข่ายสื่อสารของเจ้าหน้าที่ จึงสามารถรับรู้ความเคลื่อนของตำรวจที่สกัดจับกุมตอดเวลา จึงสามารถหลบหลีกการสกัดจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้
เบื้องต้น น.ส.ชุติมาเหยื่อกระสุนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าก่อนหน้านี้นายปรีชาได้มาติดพันจนกลายเป็นความรักและตัดสินใจแต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากันเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ตนมารู้ภายหลังว่านายปรีชามีภรรยาอยู่ก่อนแล้ว สร้างความไม่พอใจให้ตนและญาติๆ จึงได้ปรึกษากันกับญาติและตัดสินใจบอกเลิกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะที่นายปรีชาพยายามตามงอนง้อขอคืนดี แต่ตนยืนยันเลิกยุ่งเกี่ยวกับอย่างเด็ดขาด
จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ ตนสอนนักเรียนอยู่ในโรงเรียน เมื่อโรงเรียนเลิกนายปรีชาได้ขับรถยนต์มาจอดหน้าโรงเรียนและเข้าไปหาตนในโรงเรียน พยายามเจรจางอนง้อขอคืนดี โดยขอให้ตนอยู่กินเป็นสามีภรรยากันเหมือนเดิม แต่ตนยืนยันว่าจะขอเลิกอย่างเด็ดขาด สร้างความไม่พอใจให้นายปรีชาอย่างมาก ตนเห็นท่าไม่ดีจึงโทรศัพท์แจ้งนายวินิจบิดาทราบ และขอให้ขับรถยนต์มารับตนที่โรงเรียนด้วย นายวินิจจึงขับรถมารับตน และในขณะที่นายวินิจจะขับรถออกจากโรงเรียนโดยมาตนนั่งคู่มาที่เบาะด้านหน้า นายปรีชาได้ชักอาวุธปืน 9 มม.ออกมารัวยิงถล่มใส่รถยนต์ของนายวินิจอย่างบ้าคลั่งจนกระสนหมดแมกกาซีน นายปรีชาได้เปลี่ยนแมกกาซีนและรัวยิงใส่อีกอย่างไม่ยั้ง
ในขณะที่ตนและนายวินิจพยายามหมอบหลบกระสุนหนีตาย แต่กระสุนถูกทะลุกระจกถูกนายวินิจ บิดาจนฟุบจมกองเลือด ส่วนตนถูกกระสุนเฉี่ยวและโดนกระจกรถยนต์บาดที่แขนทั้งสองข้างได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังก่อเหตุนายปรีชาได้ขับรถกระบะหลบหนีไปดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวนายปรีชามาดำเนินคดีต่อไปแล้ว
ค่ำวันที่ 9 พ.ค. พ.ต.ท.ภิรมย์ เรืองรุ่ง พนักงานสอบสวน (สบ 3) สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกันบริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลเจริญจิต ริมถนนสายนครศรีธรรมราช-สุราษฏร์ธานี ใกล้กับกองร้อย ตชด.ที่ 424 หมู 13 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล จึงพร้อมด้วยกำลังตำรวจสายตรวจ สายสืบรีบรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ ท่ามกลางความตื่นตระหนกของผู้เห็นเหตุการณ์หลายราย บริเวณลานจอดรถหน้าโรงเรียนพบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ตอนครึ่ง สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บล-2503 นครศรีธรรมราช กระจกหน้าและกระจกหลังถูกกระสุนจนเป็นรูพรุนหลายแห่ง โดยกระจกหลังแตกกระจายเกลื่อนบริเวณ บนที่นั่งพบเลือดเปรอะหลายจุด นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่เกลื่อนกลาดจำนวน 22 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนผู้บาดเจ็บนั้นได้ทราบว่าเป็นญาติใกล้ชิดกับ พล.ต.ต.กระจ่าง สุวรรณรัตน์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช ซึ่งได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.ชุติมา สุวรรณรัตน์ อายุ 31 ปี ครูสอนโรงเรียนอนุบาลเจริญจิต ที่เกิดเหตุอยู่บ้านเลขที่ 3/5 หมู่ 5 ต.สิชล อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และนายวินิจ สุวรรณรัตน์ อายุ 65 ปี บิดาของนางสาวชุติมา เบื้องต้นพบว่านางสาวชุติมาถูกยิงเฉี่ยวบริเวณแขน และมีบาดแผลถูกกระจกรถยนต์บาดที่แขนทั้งสองข้างได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ในขณะที่นายวินิจ บิดา ถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม.เข้าที่ศีรษะ 1 นัด ชายโครงซ้าย 1 นัด อาการสาหัส
ส่วนผู้ก่อเหตุรายนี้ทราบชื่อต่อมาคือ นายปรีชา บุญเชิด อายุ 31 ปี เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความเรียบร้อยประจำ อบต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช และเป็นอดีตสามีของ น.ส.ชุติมา หลังก่อเหตุได้ขับรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ ทะเบียน บร-4438 นครศรีธรรมราช หลบหนีไปทาง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช
เจ้าหน้าที่คาดว่านายปรีชามือปืนจะขับรถยนต์หลบหนีกลับบ้านในพื้นที่ ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยุสกัดจับทกเส้นทางแต่ เนื่องจากนายปรีชาพกพาวิทยุมือถือคอยดักฟังความถี่ข่ายสื่อสารของเจ้าหน้าที่ จึงสามารถรับรู้ความเคลื่อนของตำรวจที่สกัดจับกุมตอดเวลา จึงสามารถหลบหลีกการสกัดจับของเจ้าหน้าที่ตำรวจไปได้
เบื้องต้น น.ส.ชุติมาเหยื่อกระสุนที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าก่อนหน้านี้นายปรีชาได้มาติดพันจนกลายเป็นความรักและตัดสินใจแต่งงานอยู่กินเป็นสามีภรรยากันเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ตนมารู้ภายหลังว่านายปรีชามีภรรยาอยู่ก่อนแล้ว สร้างความไม่พอใจให้ตนและญาติๆ จึงได้ปรึกษากันกับญาติและตัดสินใจบอกเลิกเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ในขณะที่นายปรีชาพยายามตามงอนง้อขอคืนดี แต่ตนยืนยันเลิกยุ่งเกี่ยวกับอย่างเด็ดขาด
จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุ ตนสอนนักเรียนอยู่ในโรงเรียน เมื่อโรงเรียนเลิกนายปรีชาได้ขับรถยนต์มาจอดหน้าโรงเรียนและเข้าไปหาตนในโรงเรียน พยายามเจรจางอนง้อขอคืนดี โดยขอให้ตนอยู่กินเป็นสามีภรรยากันเหมือนเดิม แต่ตนยืนยันว่าจะขอเลิกอย่างเด็ดขาด สร้างความไม่พอใจให้นายปรีชาอย่างมาก ตนเห็นท่าไม่ดีจึงโทรศัพท์แจ้งนายวินิจบิดาทราบ และขอให้ขับรถยนต์มารับตนที่โรงเรียนด้วย นายวินิจจึงขับรถมารับตน และในขณะที่นายวินิจจะขับรถออกจากโรงเรียนโดยมาตนนั่งคู่มาที่เบาะด้านหน้า นายปรีชาได้ชักอาวุธปืน 9 มม.ออกมารัวยิงถล่มใส่รถยนต์ของนายวินิจอย่างบ้าคลั่งจนกระสนหมดแมกกาซีน นายปรีชาได้เปลี่ยนแมกกาซีนและรัวยิงใส่อีกอย่างไม่ยั้ง
ในขณะที่ตนและนายวินิจพยายามหมอบหลบกระสุนหนีตาย แต่กระสุนถูกทะลุกระจกถูกนายวินิจ บิดาจนฟุบจมกองเลือด ส่วนตนถูกกระสุนเฉี่ยวและโดนกระจกรถยนต์บาดที่แขนทั้งสองข้างได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังก่อเหตุนายปรีชาได้ขับรถกระบะหลบหนีไปดังกล่าว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เร่งติดตามตัวนายปรีชามาดำเนินคดีต่อไปแล้ว