ศูนย์ข่าวภูเก็ต - กรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน หนุนใช้พลังงานทดแทนบนเกาะราชา-เกาะโหลน จ.ภูเก็ต ในรูปแบบพลังงานผสมผสานทั้งพลังแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวมวล
นายจิรศักดิ์ ธรรมเวช พลังงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังนำคณะรองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ลงสำรวจพื้นที่เกาะราชา และเกาะโหลน ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อจัดหาพลังงานทดแทนมาใช้บนเกาะ เนื่องจากขณะนี้บนเกาะทั้ง 2 แห่งยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และเป็นส่วนหนึ่งในโครงการภูเก็ตเขียว ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ด้าน คือ การพิทักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล และนำพลังงานทดแทนมาใช้ทุกรูปแบบ ว่า จากการสำรวจเกาะราชา และเกาะโหลน พบว่า เกาะทั้ง 2 แห่ง มีศักยภาพที่จะนำพลังงานทดแทนมาใช้ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวมวลมาใช้
ในส่วนของเกาะโหลน กรมพัฒนาพลังงานฯ ตั้งใจจะพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในรูปแบบผสมผสาน โดยการตั้งสถานีไฟฟ้าชุมชน ด้วยการนำพลังงานทดแทนหลายแบบมาใช้ ทั้งการติดตั้งกังหันลม และการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ถ้าหากทำได้จะช่วยประชาชนประหยัดในเรื่องของการใช้เครื่องปั่นไปได้ ซึ่งแต่ละเดือนประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปั่นไฟครัวเรือนละ 2,000 พันบาท
ส่วนเกาะราชาใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ทางกรมพลังงานเตรียมส่งเสริมผู้ประกอบการ ด้านอนุรักษ์พลังงาน เช่น มาตรการยกเว้นภาษีกรณีติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือ เข้าร่วมทุนกองทุนพลังงานทดแทน ในกรณีต้องการพัฒนาโครงการต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นต้นแบบด้านการใช้พลังงานทดแทนต่อไป
ในส่วนของเกาะราชา ก็มีความพร้อมในการใช้พลังงานทดแทนทั้งพลังงานลม พลังแสงอาทิตย์ และพลังงานชีวมวลเช่นเดียวกัน
นายจิรศักดิ์ ธรรมเวช พลังงานจังหวัดภูเก็ต กล่าวภายหลังนำคณะรองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ลงสำรวจพื้นที่เกาะราชา และเกาะโหลน ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เพื่อจัดหาพลังงานทดแทนมาใช้บนเกาะ เนื่องจากขณะนี้บนเกาะทั้ง 2 แห่งยังไม่มีไฟฟ้าใช้ และเป็นส่วนหนึ่งในโครงการภูเก็ตเขียว ภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ด้าน คือ การพิทักษ์ด้านสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานจากฟอสซิล และนำพลังงานทดแทนมาใช้ทุกรูปแบบ ว่า จากการสำรวจเกาะราชา และเกาะโหลน พบว่า เกาะทั้ง 2 แห่ง มีศักยภาพที่จะนำพลังงานทดแทนมาใช้ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานชีวมวลมาใช้
ในส่วนของเกาะโหลน กรมพัฒนาพลังงานฯ ตั้งใจจะพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในรูปแบบผสมผสาน โดยการตั้งสถานีไฟฟ้าชุมชน ด้วยการนำพลังงานทดแทนหลายแบบมาใช้ ทั้งการติดตั้งกังหันลม และการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ถ้าหากทำได้จะช่วยประชาชนประหยัดในเรื่องของการใช้เครื่องปั่นไปได้ ซึ่งแต่ละเดือนประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายในการปั่นไฟครัวเรือนละ 2,000 พันบาท
ส่วนเกาะราชาใหญ่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ทางกรมพลังงานเตรียมส่งเสริมผู้ประกอบการ ด้านอนุรักษ์พลังงาน เช่น มาตรการยกเว้นภาษีกรณีติดตั้งอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน การให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือ เข้าร่วมทุนกองทุนพลังงานทดแทน ในกรณีต้องการพัฒนาโครงการต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นต้นแบบด้านการใช้พลังงานทดแทนต่อไป
ในส่วนของเกาะราชา ก็มีความพร้อมในการใช้พลังงานทดแทนทั้งพลังงานลม พลังแสงอาทิตย์ และพลังงานชีวมวลเช่นเดียวกัน
