ปัตตานี - ประชาชนทุกภาคส่วนเข้าเยี่ยมให้กำลังใจผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี หลังถูกคนร้ายลอบวางระเบิด พ่อเมืองยันมีกำลังใจดีพร้อมที่จะทุ่มเททำงานก่อนที่จะเกษียณอายุราชการอีก 5 เดือนข้างหน้านี้
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่บริเวณบ้านพักจวนผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้มีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน ตรวจเข้มคอยดูแลรักษาความเรียบร้อย ซึ่งตลอดทั้งวันของวันนี้ได้มีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน เดินทางเข้าเยี่ยมให้กำลังใจแก่ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เป็นจำนวนมาก โดยนายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ขอบคุณที่ทุกคนเป็นห่วง สำหรับตนเองมีขวัญกำลังใจดี พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่ตามปกติ ในช่วงระยะเวลาที่เหลือก่อนที่จะเกษียณอายุราชการในช่วง 5-6 เดือนข้างหน้า
ส่วนเหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นนั้นต้องถือว่าการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย ก็เป็นไปด้วยดี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้พยายามติดตามการเคลื่อนไหว และหาช่วงจังหวะโอกาสที่จะก่อเหตุ ซึ่งกลุ่มที่ก่อเหตุลอบวางระเบิดในครั้งนี้ได้มอบหมายให้ทีมงานในพื้นที่ติดตามว่าเป็นกลุ่มไหน และผมเชื่อว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบที่มีการเชื่อมโยงกับคนในพื้นที่
สำหรับความคืบหน้าของคดีเหตุวางระเบิดรถยนต์ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เมื่อวาน (26 เม.ย.)ที่ผ่านมานั้นล่าสุด พ.ต.อ.จีรวัฒน์ อุดมสุด รอง ผบก.ภจว.ปัตตานี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถรู้เบาะแสของคนร้ายที่ลอบวางระเบิดเป็นกลุ่มของนายมะซอเร ดือรามะ เป็นคนในพื้นที่ ม.6 ต ปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี
จากแหล่งข่าวกรองในพื้นที่ระบุว่านายมะซอเร ดืรามะ อดีตเคยเป็นช่างรับซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรทัศน์ วิทยุ ในตัวเมืองปัตตานี ก่อนที่จะหันหลังกับทางการและหันมาเป็นฝ่ายผลิตวงจรระเบิดในพื้นที่และจัดหากลุ่มเป้าหมายในการนำระเบิดไปวาง เพื่อก่อเหตุในแต่ละครั้ง และในครั้งนี้หลังจากพึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นแกนนำในพื้นที่ อ.ปะนาเระ และพื้นที่สายบุรี
จึงได้มีการก่อเหตุลอบวางระเบิดรถยนต์ของผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีในครั้งนี้ เพื่อหวังสร้างผลงานใหญ่ในการสร้างความศรัทธาและความสามารถของตัวเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ทางการข่าวได้รับแจ้งเตือนมาก่อนแล้วว่าจะมีการก่อเหตุลอบสังหารระดับผู้บังบัญชาในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้โดยเฉพาะผู้ว่าราการจังหวัด มาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายนทีผ่านมา
แต่เนื่องจากพื้นที่ อ.สายบุรีและ อ.ปะนาเระ ท่านผู้ว่าฯ เคยดำรงตำแหน่งนายอำเภอที่นั้นมาก่อน จึงรู้สึกว่าน่าจะปลอดภัยเพราะเคยมาอยู่แล้ว จึงไม่ได้ขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่รักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมแต่อย่างใด จนกระทั่งเกิดเหตุขึ้นจนได้รับความเสียหายตามที่เป็นข่าว
