พัทลุง - เหตุเงินเยียวยา 5,000 บาทให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมพัทลุงแบบถัวเฉลี่ยยังอึมครึม หลังจาก นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ปัดการแก้ปัญหาในภาพรวม แต่ให้ผู้ว่าฯ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบกันเอง หวั่นเป็นมวยล้มต้มคนดูซ้ำ เพราะใช้คนของรัฐตรวจสอบกันเอง
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า จากกรณีผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ออกมาโวยเรื่องของการจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 5,000 บาท ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง เช่น ต.ชัยบุรี ได้ครอบครัวละ 3,347 บาท, ต.ลำปำ ได้ครอบครัวละ 2,323 บาท, ต.พญาขันต์ อ.เมือง ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน ต.ปันแต อ.ควนขนุน ชาวบ้านได้รับครอบครัวละ 3,345 บาท ซึ่งต่างจากที่รัฐบาลประกาศไว้ครอบครัวละ 5,000 บาท
โดยล่าสุด นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ คชอ.กล่าวถึงกรณีที่ ชาว จ.พัทลุง ออกมาร้องเรียนว่า ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลไม่ครบตามหลักเกณฑ์หลังละ 5,000 บาท ว่า เบื้องต้นผู้ว่าราชการ จ.พัทลุง ได้รายงานให้ทราบว่า มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว และผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบภายในวันนี้ ทั้งนี้เห็นว่า เป็นเรื่องถูกต้องที่มีการตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน ธนาคารออมสิน ยืนยันว่า จ่ายเงินครบตามจำนวน และมีผู้เซ็นรับรองครบจำนวนแล้ว ส่วนผู้ที่เซ็นจะนำไปดำเนินการอย่างไรต่อนั้น ไม่ทราบในรายละเอียด ตามหลักเกณฑ์การรับเงินช่วยเหลือดังกล่าว ไม่สามารถรับแทนกันได้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบในวันนี้ พบว่า ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง จังหวัดยังไม่ได้มีการเรียกประชุม หรือตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบปัญหาการยักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ทีมีการร้องเรียนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ชาวบ้านระบุว่า หากจังหวัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เป็นกรรมการ เชื่อว่า การตรวจสอบในครั้งนี้ ผลสุดท้ายก็ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานเอกชนในต่างจังหวัดเข้าตรวจสอบมากกว่า
ส่วนกรณีชาวบ้าน หมู่ 8 บ้านปากประ ต.ลำปำ อ.เมือง รวมตัวร้องเรียนเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยรอบ 3 ของปี 2553 ระบุเงินได้ไม่เต็ม และมีบางส่วนขาดหายไป โดยไม่รู้ว่าหายไปไหน หลังตรวจสอบพบว่า เงินทั้งหมดเป็นการถัวเฉลี่ยให้แก่ชาวบ้านผู้เดือดร้อนในพื้นที่ 11 หมู่บ้านของ ต.ลำปำ
ต.ลำปำมีชาวบ้านเดือดร้อน และลงทะเบียนร้องขอความช่วยเหลือจำนวน 951 ราย อำเภอพิจารณาตัดเหลือ 442 ราย ที่สามารถเบิกเงินจำนวนรายละ 5,000 บาทได้ จึงเรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาประชุมร่วมกันว่าจะถัวเฉลี่ยให้ชาวบ้านผู้เดือดร้อนได้รับเงินทุกคน โดยที่ไม่ลงทำความเข้าใจกับชาวบ้านก่อน ในพื้นที่ ต.ลำปำ จึงได้รับเงินเยียวยาแค่ครอบครัวละ 2,323 บาท
สำหรับในภาพรวมของจังหวัดพัทลุง ทุกพื้นที่จะใช้วิธีถัวเฉลี่ยจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 5,000 บาท เนื่องจากในพื้นที่มีความผิดพลาดในการพิจารณาให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมาตั้งแต่ต้น โดยปล่อยให้ชาวบ้านผู้ที่ไม่ได้รับความเดือดร้อนจริงได้รับเงินช่วยเหลือ เนื่องจากเป็นพวกพ้องของผู้นำในท้องถิ่นและราชการ ทำให้เกิดปัญหาชาวบ้านทุกครัวเรือนของจังหวัดพัทลุงต่างแห่ไปลงทะเบียน จนรัฐบาลไม่สามารถจัดสรรเงินมาให้ครบตามจำนวนรายเนื่องจากเห็นว่ามากเกินจริง
วันนี้ (20 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า จากกรณีผู้ประสบภัยในพื้นที่จังหวัดพัทลุง ออกมาโวยเรื่องของการจ่ายเงินช่วยเหลือครอบครัวละ 5,000 บาท ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง เช่น ต.ชัยบุรี ได้ครอบครัวละ 3,347 บาท, ต.ลำปำ ได้ครอบครัวละ 2,323 บาท, ต.พญาขันต์ อ.เมือง ต.เกาะนางคำ อ.ปากพะยูน ต.ปันแต อ.ควนขนุน ชาวบ้านได้รับครอบครัวละ 3,345 บาท ซึ่งต่างจากที่รัฐบาลประกาศไว้ครอบครัวละ 5,000 บาท
โดยล่าสุด นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย หรือ คชอ.กล่าวถึงกรณีที่ ชาว จ.พัทลุง ออกมาร้องเรียนว่า ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลไม่ครบตามหลักเกณฑ์หลังละ 5,000 บาท ว่า เบื้องต้นผู้ว่าราชการ จ.พัทลุง ได้รายงานให้ทราบว่า มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบเรื่องนี้แล้ว และผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบภายในวันนี้ ทั้งนี้เห็นว่า เป็นเรื่องถูกต้องที่มีการตรวจสอบ
ขณะเดียวกัน ธนาคารออมสิน ยืนยันว่า จ่ายเงินครบตามจำนวน และมีผู้เซ็นรับรองครบจำนวนแล้ว ส่วนผู้ที่เซ็นจะนำไปดำเนินการอย่างไรต่อนั้น ไม่ทราบในรายละเอียด ตามหลักเกณฑ์การรับเงินช่วยเหลือดังกล่าว ไม่สามารถรับแทนกันได้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า การตรวจสอบในวันนี้ พบว่า ในพื้นที่จังหวัดพัทลุง จังหวัดยังไม่ได้มีการเรียกประชุม หรือตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบปัญหาการยักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ทีมีการร้องเรียนแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ชาวบ้านระบุว่า หากจังหวัดตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ เป็นกรรมการ เชื่อว่า การตรวจสอบในครั้งนี้ ผลสุดท้ายก็ไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานเอกชนในต่างจังหวัดเข้าตรวจสอบมากกว่า
ส่วนกรณีชาวบ้าน หมู่ 8 บ้านปากประ ต.ลำปำ อ.เมือง รวมตัวร้องเรียนเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยรอบ 3 ของปี 2553 ระบุเงินได้ไม่เต็ม และมีบางส่วนขาดหายไป โดยไม่รู้ว่าหายไปไหน หลังตรวจสอบพบว่า เงินทั้งหมดเป็นการถัวเฉลี่ยให้แก่ชาวบ้านผู้เดือดร้อนในพื้นที่ 11 หมู่บ้านของ ต.ลำปำ
ต.ลำปำมีชาวบ้านเดือดร้อน และลงทะเบียนร้องขอความช่วยเหลือจำนวน 951 ราย อำเภอพิจารณาตัดเหลือ 442 ราย ที่สามารถเบิกเงินจำนวนรายละ 5,000 บาทได้ จึงเรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มาประชุมร่วมกันว่าจะถัวเฉลี่ยให้ชาวบ้านผู้เดือดร้อนได้รับเงินทุกคน โดยที่ไม่ลงทำความเข้าใจกับชาวบ้านก่อน ในพื้นที่ ต.ลำปำ จึงได้รับเงินเยียวยาแค่ครอบครัวละ 2,323 บาท
สำหรับในภาพรวมของจังหวัดพัทลุง ทุกพื้นที่จะใช้วิธีถัวเฉลี่ยจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 5,000 บาท เนื่องจากในพื้นที่มีความผิดพลาดในการพิจารณาให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยมาตั้งแต่ต้น โดยปล่อยให้ชาวบ้านผู้ที่ไม่ได้รับความเดือดร้อนจริงได้รับเงินช่วยเหลือ เนื่องจากเป็นพวกพ้องของผู้นำในท้องถิ่นและราชการ ทำให้เกิดปัญหาชาวบ้านทุกครัวเรือนของจังหวัดพัทลุงต่างแห่ไปลงทะเบียน จนรัฐบาลไม่สามารถจัดสรรเงินมาให้ครบตามจำนวนรายเนื่องจากเห็นว่ามากเกินจริง