ชุมพร - คณะอนุกรรมการตรวจสอบการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัย สำนักนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ประสบอุทกภัยภาคใต้ทำความเข้าใจกับผู้ว่าราชการจังหวัด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนถึงหลักเกณฑ์การมีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือ 5 พันบาท วงเงิน 2,800 ล้านบาท เพื่อความถูกต้องชัดเจน ไม่เกิดปัญหา
วันนี้ (18 เม.ย.) ที่ห้องประชุมเกาะทองหลาง ศาลากลางจังหวัดชุมพร นายระพีพันธุ์ สริวัฒน์ หัวหน้าผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะกรรมการอีก 5 คณะ ประกอบด้วยคณะผู้ตรวจราชการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย คณะผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น คณะผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ คณะผู้แทนสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และคณะผู้แทนสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (GISTDA) ที่รับผิดชอบเขตพ้นที่ จ.ชุมพร สงขลา พังงา สตูล และ นราธิวาส ร่วมประชุมชี้แจงถึงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบอุทกภัยในภาคใต้ ครัวเรือนละ 5 พันบาท ให้สามารถอนุมัติเงินจ่ายเงินช่วยเหลือได้ถูกต้องและทันที โดยมีกรอบวงเงินในการช่วยเหลือที่ได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้วเมื่อวันที่ 4 เม.ย.54 จำนวน 2,800 ล้านบาท
นายระพีพันธุ์ กล่าวว่า ภายหลังจากการจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในครั้งที่ผ่านมานั้น เกิดปัญหาความไม่เข้าใจกันของภาครัฐและภาคประชาชนต่อหลักเกณฑ์การจ่ายเงิน ทำให้จำนวนของผู้ที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์มีมาก และเกิดความล่าช้าในการตรวจสอบ ดังนั้น เพื่อให้การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยในคราวนี้เป็นไปด้วยความรวดเร็วและเกิดความเข้าใจที่ตรงกัน จึงได้ตั้งคณะกรรมการ 6 คณะ ลงไปทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ ถึงหลักเกณฑ์ และวิธีการตรวจสอบผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือ ทั้งนี้ เชื่อว่า จะได้จำนวนผู้ประสบอุทกภัย ครัวเรือน ที่ถูกต้องแม่นยำ สามารถจ่ายเงินให้เสร็จได้ภายในเร็วๆ นี้
สำหรับขั้นตอนการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ครัวเรือนละ 5,000 บาท เฉพาะอุทกภัยภาคใต้ ตามมติ ครม.โดย สนง.ปภ.จังหวัด จะต้องตรวจสอบข้อมูลรายชื่อให้ถูกต้อง แล้วเสนอต่อคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) พิจารณาให้ความเห็นชอบ และ ผวจ.ลงนามรับรองว่าเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือตามมติ ครม. พร้อมกับส่งข้อมูลรายละเอียดจำนวนครัวเรือนที่ขอรับการช่วยเหลือแก่คณะกรรมการ ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 23 เม.ย.54 และเอกสารตัวจริงส่งถึง ปภ.ภายในวันที่ 27 เม.ย.54 ให้มีการเก็บรักษาต้นฉบับข้อมูลรายละเอียดที่ได้รับจากอำเภอไว้ เพื่อให้ สตง.ตรวจสอบเพื่อป้องกันการแก้ไขข้อมูล ให้ ปภ. ตรวจสอบข้อมูลรายชื่อที่ได้รับจากจังหวัด แล้วส่งให้ธนาคารออมสิน เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด จัดทำแผนการจ่ายเงินให้แล้วเสร็จภายในเวลาไม่เกิน 7 วัน
หลังจากได้รับการโอนเงิน และธนาคารออมสินจะทำการจ่ายเงิน ณ ที่ทำการสาขา และจัดหน่วยเคลื่อนที่เพื่อไปจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิ ทั้งนี้ การให้การช่วยเหลือในกรณีนี้จะสิ้นสุดลงภายในวันที่ 22 มิถุนายน 2554