สวนยาง-ปาล์มตรังจมน้ำตายไปจำนวนมาก

ตรัง - ผลจากน้ำท่วมขังติดต่อหลายวัน ส่งผลให้ยางพารา ปาล์มน้ำมัน ยืนต้นตาย ขณะที่ชาวบ้านอาศัยติดกับแม่น้ำตรัง ยังต้องใช้เรือในการเดินทาง และโรงเรียนบางแห่งยังจมอยู่ใต้น้ำ

วันนี้(10 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรังรายงานว่า แม้ว่าฝนจะหยุดตกมาหลายวัน หลังจากเกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่ต่างๆ ของ จ.ตรัง ทั้ง 10 อำเภอ โดยล่าสุดสภาพน้ำท่วมเกือบเข้าสู่สภาวะปกติ ยังคงมีน้ำขังเฉพาะพื้นที่ราบลุ่มติดกับแม่น้ำตรัง ในพื้นที่ 4 ตำบล 11 หมู่บ้าน และโรงเรียนอีก 1 แห่ง คือ โรงเรียนบ้านคลองขุด ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง ที่ยังคงมีน้ำท่วมสูงประมาณ 30-50 เซนติเมตร และเชื่อว่าอีกประมาณ 7 วัน หากฝนหยุดตก ทุกพื้นที่จะเข้าสู่ปกติ

อย่างไรก็ตาม เรือยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชาวบ้านที่มีบ้านเรือนติดกับแม่น้ำตรัง และพื้นที่ลุ่ม ขณะที่บ้านเรือนที่น้ำลดเป็นปกติแล้ว ได้ทำความสะอาด ขัดถู เครื่องใช้ อุปกรณ์ต่างๆ ที่ถูกน้ำท่วม แต่พบว่าบ้านบางหลัง ถูกน้ำพัดเสียหายทั้งหลัง เนื่องจากสร้างอยู่ใกล้บริเวณทางน้ำป่าไหลเชี่ยวกราก

\ขณะเดียวกันสวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน จำนวนหลายพันไร่ ได้รับความเสียหายจากการที่มีน้ำท่วมนานหลายวัน ทำให้ลำต้น และรากเน่า โดยเฉพาะต้นยางพาราที่ปลูกได้ประมาณ 1-2 ปี บางแปลงมีต้นยางพารายืนต้นตายมากถึง 20-30 ไร่ ทำให้เจ้าของสวนยางต้องสูญเสียค่าต้นกล้ายาง ปุ๋ย และค่าแรงหลายแสนบาท

ส่วนสวนยางพาราขนาดใหญ่ ก็ไม่สามารถกรีดได้ เนื่องจากยังมีน้ำท่วมสูง ทำให้ชาวสวนยางพารา ยังไม่สามารถนำรายได้จากการกรีดยางได้ในช่วงนี้ แม้ว่าจะมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 160-170 บาท ก็ตาม