กระบี่ - เจ้าหน้าที่เดินเท้าปูพรมค้นหาเหยื่อดินภูเขาถล่มที่อำเภอเขาพนม พบอีก 2 ศพ ส่วนที่สูญอีก 4 คน ค้นหาต่อพรุ่งนี้ ด้านนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เยี่ยมและให้กำลังใจผู้ประสบภัย
ตลอดทั้งวันนี้ (31 มี.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ อ.ส. ประมาณ 150 นาย ได้ทำการเดินเท้าปูพรมค้นหาผู้เสียชีวิตที่คาดว่ายังติดอยู่ใต้โคลน ในบริเวณที่เกิดเหตุบ้านต้นหาร ม.7 ต.หน้าเขา อ.เขาพนม จ.กระบี่ จากการเดินเท้าค้นหาของเจ้าหน้าที่พบ รถกระบะ สภาพพังเสียหายย่อยยับ จำนวน 5 คัน และจากการใช้เวลาในการค้นหาประมาณ 2 ชั่วโมง ทางเจ้าหน้าที่ ได้พบศพติดอยู่กับท่อนซุง จำนวน 2 ศพ ชาย 1 คน หญิง 1 คน สภาพติดโคลนเต็มตัว เจ้าหน้าที่ได้ใช้เลื่อยยนต์ตัดท่อนซุงเพื่อนำเอาศพออกมาด้วยความทุลักทุเล และได้ทำการค้นหาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนผู้สูญหายอีก 4 คนนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะออกค้นหาในบริเวณที่เกิดเหตุอีกครั้งฟหนึ่งในวันพรุ่งนี้
ต่อมาเวลา 15.00 น.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะได้ลงตรวจเยี่ยมพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการค้นหาศพ พร้อมกับเดินทางเข้าวัดถ้ำโกบ เพื่อทำการคาราวะศพผู้เสียชีวิต ที่ได้ตั้งบำเพ็ญกุศลศพภายในวัด พร้อมกับเยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบภัยที่พักอยู่ภายในวัดดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ทางนายกรัฐมนตรี ได้แสดงความห่วงใย พร้อมกับมอบหมายให้ทาง นายประสิทธิ์ โอสถานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นผู้ดูแลในเรื่องของการช่วยเหลือต่อไป
นายมเนาว์ ศรีชาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบล ( อบต.) หน้าเขา อำเภอเขาพนม จังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า วันนี้เป็นวันที่ 2 ที่ทางหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ได้ระดมกำลังช่วยกันต้นหาผู้ที่สูญหาย และผู้เสียชีวิต ในพื้นที่ ของหมู่ที่ 7 บ้านต้นหาร (หมู่บ้านที่เกิดเหตุ) ซึ่งขณะนี้ได้พบผู้เสียชีวิตที่แน่นอนแล้ว จำนวน 4 ศพ โดยพบเมื่อวานนี้ 2 ศพ และวันนี้อีก 2 ศพ แต่ยืนยันว่า ยังมีผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ใต้โคลน ตม มากกว่านี้ เพราะขณะนี้ยังมีผู้ที่สูญหายจำนวน 6 คน ที่ยังหาไม่พบ น่าจะเสียชีวิตหมดแล้ว ระยะเวลา 2 วันที่ผ่านมา ที่ทางหน่วยงานต่างๆ ได้ระดมลงไปในพื้นที่ ต่างก็ได้ระดมกำลังค้นหาผู้สูญหาย และผู้เสียชีวิตแต่เพียงอย่างเดียว สภาพในหมู่บ้านก็ยังเต็มไปด้วยท่อนซุง ดินโคลน
ทางด้าน นางละเอียด พุตศรี อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 7 บ้านต้นหาร เล่านาทีระทึกว่า ขณะที่ตนอยู่ในบ้าน พร้อมกับลูกสาว ลูกเขย และหลาน ทั้งหมด 5 คน ก็ได้ยิดเสียงดังมาจากยอดเขา แต่ก็ไม่ได้สะเอะใจอะไร จากนั้นเพียงไม่กีนาที ทั้งน้ำ ทั้งท่อนซุง ทั้งหินก็เทลงมา ลูกสาว คือ นางสุปราณี รักเมือง และนายถานิตย์ รักเมือง ได้จับลูก อายุ 4 ขวบ 1 คน วิ่งหนี แต่นายถานิตย์ กับลูก ได้ถูกโคลนซัด ไปคนละทิศ คนละทาง หายไปตามกระแสน้ำ ไม่ได้รับรู้ ชะตากรรม ว่าสมาชิกในครอบครัวมีใครรอดชีวิตหรือไม่ แต่หลังจากที่ได้ค้นหาก็ได้พบสมาชิกทุกคนรอดชีวิตทั้งหมด ขณะนี้ทั้งลูก และหลาน นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเขาพนม ส่วนลูกเขยนั้น อาการสาหัส เพราะว่าถูกท่อนซุงกระแทกบริเวณลำตัว
นางละเอียด ได้กล่าวอีกว่า สาเหตุที่สำคัญที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ก็เพราะว่า บนภูเขาด้านบน ได้มีการบุกรุกตัดโค่นต้นไม้ขนาดใหญ่เป็นจำนวนมาก น้ำที่ลงมาจากยอดเขาถ้าหากว่ามันเป็นน้ำแต่เพียงอย่างเดียว ความเสียหายมันจะไม่มากอย่างนี้ แต่สภาพที่เห็นมันเป็นท่อนซุง ขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ ลงมากับน้ำเป็นจำนวนมาก
