นราธิวาส - โจรใต้ดักซุ่มยิงรถยนต์ประจำตำแหน่งของนายอำเภอรือเสาะ ซึ่งเดินทางพร้อมกับปลัดอาวุโสและ อส.จำนวนหนึ่ง ก่อนที่จะมีการยิงต่อสู้และขอกำลังเสริมเพื่อไล่ล่า สุดท้ายจับกุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 ราย
วันนี้ (31 มี.ค.) เกิดเหตุคนร้ายดักซุ่มยิง นายวัชรศักดิ์ จุลาญานนท์ นายอำเภอรือเสาะ ที่นั่งรถยนต์กระบะร่วมกับปลัดอาวุโสและอาสาสมัครรักษาดินแดน บนถนนในหมู่บ้านบูเก๊ะนากอ ม.2 ต.ลาโล๊ะ จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ท.มานิตย์ เผ่าพงษ์จันทร์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 พ.ต.ท.พชรพล ณ นคร รองผกก.ป.สภ.รือเสาะ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้แยกกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกไล่ล่าติดตามกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาเมาะแต หลังหมู่บ้านจุดเกิดเหตุ และได้เกิดปะทะกับกลุ่มคนร้ายเป็นระลอกๆ ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่ทราบความสูญเสีย แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 2 คน ไปสอบสวนขยายผลเครียด แต่เจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยถึงรายละเอียด
ส่วนชุดที่ 2 ได้ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุกับพนักงานสอบสวน และพบว่า รถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฌข 1470 กทม.ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของ นายวัชรศักดิ์ นายอำเภอรือเสาะ จอดเสียหลักอยู่ริมถนนอยู่ในสภาพกระจกหน้า กระจกข้าง และประตูด้านคนขับมีร่องรอยถูกกระสุนปืนได้รับความเสียหายและเป็นรูพรุน ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้า ตกอยู่ริมชายป่ารกทึบริมถนน จำนวน 2 จุดใหญ่ รวมกว่า 40 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายวัชรศักดิ์ นายอำเภอรือเสาะ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งรถยนต์ประจำตำแหน่งออกจากบ้านพัก โดยมี นายหฤษฎ์ มาหามะ ปลัดอาวุโส และ อส.รวม 6 นาย เพื่อเดินทางไปร่วมงานเมาลิตและงานเข้าสุนัตที่หมู่บ้านพงยือติ ม.9 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ เมื่อเสร็จภารกิจได้นั่งรถยนต์เพื่อเดินทางกลับที่ว่าการอำเภอ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ดักซุ่มอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 และอาก้า ยิงถล่มใส่รถยนต์ที่ตนนั่งมา จึงได้ตะโกนให้พลขับหยุดรถ และต่างคนต่างวิ่งออกจากรถเพื่อหาที่กำบัง และใช้อาวุธปืนประจำกายของแต่ละคนยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้าย จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากเป็นระลอกๆ
นายวัชรศักดิ์ จึงได้วิทยุประสานไปยัง พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ เพื่อขอสนับสนุนกำลังเข้าเสริม และเมื่อผ่านไปประมาณ 15 นาที พ.ต.อ.สะท้านฟ้า นำกำลังถึงที่เกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้รีบนำกำลังล่าถอยไป
วันนี้ (31 มี.ค.) เกิดเหตุคนร้ายดักซุ่มยิง นายวัชรศักดิ์ จุลาญานนท์ นายอำเภอรือเสาะ ที่นั่งรถยนต์กระบะร่วมกับปลัดอาวุโสและอาสาสมัครรักษาดินแดน บนถนนในหมู่บ้านบูเก๊ะนากอ ม.2 ต.ลาโล๊ะ จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุร่วมกับ พ.ท.มานิตย์ เผ่าพงษ์จันทร์ ผบ.ฉก.นราธิวาส 30 พ.ต.ท.พชรพล ณ นคร รองผกก.ป.สภ.รือเสาะ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้แยกกำลังออกเป็น 2 ชุด ชุดแรกไล่ล่าติดตามกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาเมาะแต หลังหมู่บ้านจุดเกิดเหตุ และได้เกิดปะทะกับกลุ่มคนร้ายเป็นระลอกๆ ซึ่งในเบื้องต้นยังไม่ทราบความสูญเสีย แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้จำนวน 2 คน ไปสอบสวนขยายผลเครียด แต่เจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยถึงรายละเอียด
ส่วนชุดที่ 2 ได้ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุกับพนักงานสอบสวน และพบว่า รถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน ฌข 1470 กทม.ซึ่งเป็นรถประจำตำแหน่งของ นายวัชรศักดิ์ นายอำเภอรือเสาะ จอดเสียหลักอยู่ริมถนนอยู่ในสภาพกระจกหน้า กระจกข้าง และประตูด้านคนขับมีร่องรอยถูกกระสุนปืนได้รับความเสียหายและเป็นรูพรุน ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนสงครามเอ็ม 16 และอาก้า ตกอยู่ริมชายป่ารกทึบริมถนน จำนวน 2 จุดใหญ่ รวมกว่า 40 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวน นายวัชรศักดิ์ นายอำเภอรือเสาะ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งรถยนต์ประจำตำแหน่งออกจากบ้านพัก โดยมี นายหฤษฎ์ มาหามะ ปลัดอาวุโส และ อส.รวม 6 นาย เพื่อเดินทางไปร่วมงานเมาลิตและงานเข้าสุนัตที่หมู่บ้านพงยือติ ม.9 ต.ลาโล๊ะ อ.รือเสาะ เมื่อเสร็จภารกิจได้นั่งรถยนต์เพื่อเดินทางกลับที่ว่าการอำเภอ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ดักซุ่มอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้อาวุธปืนสงคราม เอ็ม 16 และอาก้า ยิงถล่มใส่รถยนต์ที่ตนนั่งมา จึงได้ตะโกนให้พลขับหยุดรถ และต่างคนต่างวิ่งออกจากรถเพื่อหาที่กำบัง และใช้อาวุธปืนประจำกายของแต่ละคนยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้าย จนทั้ง 2 ฝ่ายได้เปิดฉากเป็นระลอกๆ
นายวัชรศักดิ์ จึงได้วิทยุประสานไปยัง พ.ต.อ.สะท้านฟ้า วามะสิงห์ ผกก.สภ.รือเสาะ เพื่อขอสนับสนุนกำลังเข้าเสริม และเมื่อผ่านไปประมาณ 15 นาที พ.ต.อ.สะท้านฟ้า นำกำลังถึงที่เกิดเหตุ กลุ่มคนร้ายเห็นจวนตัวจึงได้รีบนำกำลังล่าถอยไป