ปัตตานี - อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ลงมาติดตามคดีค้างในศาลปัตตานี กระชับเวลาพิจารณาให้เร็วขึ้น พร้อมติดตั้งระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ในห้องพิจารณา เพื่อสะดวกต่อเจ้าหน้าที่และผู้ต้องหาในระหว่างการสืบพยาน
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ศาลจังหวัดปัตตานี นายอรุณ เรืองเพชร อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ได้เดินทางมาติดตามคดีที่ยังตกค้างในศาลปัตตานีเพื่อให้มีการกระชับเวลาของการพิจารณาคดีให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงที่ต้องใช้เวลานานถึง 1 ปีกว่า เพราะมีพยานหลายปาก ให้สามารถกระชับเวลาเหลือเพียง 10 เดือน
นอกจากนั้น ได้มาติดตามความพร้อมในการที่จะมีการติดตั้งใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศติดตั้งจอภาพในห้องพิจารณาคดี เพื่อสามารถฝากขังตามจอภาพโดยใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แทนการนำผู้ต้องหามาศาล เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ และผู้ต้องหาที่ไม่ต้องมาศาลอีกต่อไปในระหว่างการสืบพยาน
นายอารุณ เรืองเพชร อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 กล่าวว่า ปีนี้ประธานศาลฎีกามีนโยบายให้มีเทคโนโลยีสารสนเทศ ดังนั้น ในส่วนของภาค 9 ก็ได้สนองนโยบายของท่านประธานเลขาฯพัฒนาศาลยุติธรรม ก็ได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในพื้นที่ภาค 9 โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือมีการฝากขังทางจอภาพ ใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่อความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขังไม่ต้องเดินทางมาศาลหลายรอบหลายครั้ง แล้วมีนโยบายให้มีการสืบพยานทางจอภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีที่มีการประสบอุบัติเหตุ ในส่วนตรงนี้ทางสำนักงานศาลได้สนับสนุนในเรื่องของเครื่องมือในการติดตั้งจอภาพ คิดว่าในระยะใกล้นี้จะสามารถใช้ได้
ส่วนคดีที่ยังตกค้างในศาลปัตตานีมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะแล้วเสร็จ แต่ที่ค้างส่วนใหญ่จะเป็นคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงที่มีพยานเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้เร่งรัดให้กำชับเวลาในการพิจารณาคดี โดยเน้นให้มีการพิจารณาคดีอย่างต่อเนื่องให้กระชับเข้ามามากขึ้น ซึ่งจากเดิมอาจใช้เวลายาวเป็นปีกว่า เหลือเพียง 10 เดือน โดยเน้นให้มีการพิจารณาคดีอย่างต่อเนื่องให้กระชับเข้ามามากขึ้น
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ศาลจังหวัดปัตตานี นายอรุณ เรืองเพชร อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 ได้เดินทางมาติดตามคดีที่ยังตกค้างในศาลปัตตานีเพื่อให้มีการกระชับเวลาของการพิจารณาคดีให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงที่ต้องใช้เวลานานถึง 1 ปีกว่า เพราะมีพยานหลายปาก ให้สามารถกระชับเวลาเหลือเพียง 10 เดือน
นอกจากนั้น ได้มาติดตามความพร้อมในการที่จะมีการติดตั้งใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศติดตั้งจอภาพในห้องพิจารณาคดี เพื่อสามารถฝากขังตามจอภาพโดยใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ แทนการนำผู้ต้องหามาศาล เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ และผู้ต้องหาที่ไม่ต้องมาศาลอีกต่อไปในระหว่างการสืบพยาน
นายอารุณ เรืองเพชร อธิบดีผู้พิพากษาภาค 9 กล่าวว่า ปีนี้ประธานศาลฎีกามีนโยบายให้มีเทคโนโลยีสารสนเทศ ดังนั้น ในส่วนของภาค 9 ก็ได้สนองนโยบายของท่านประธานเลขาฯพัฒนาศาลยุติธรรม ก็ได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ในพื้นที่ภาค 9 โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือมีการฝากขังทางจอภาพ ใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เพื่อความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ และผู้ต้องขังไม่ต้องเดินทางมาศาลหลายรอบหลายครั้ง แล้วมีนโยบายให้มีการสืบพยานทางจอภาพโดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีที่มีการประสบอุบัติเหตุ ในส่วนตรงนี้ทางสำนักงานศาลได้สนับสนุนในเรื่องของเครื่องมือในการติดตั้งจอภาพ คิดว่าในระยะใกล้นี้จะสามารถใช้ได้
ส่วนคดีที่ยังตกค้างในศาลปัตตานีมีไม่มาก ส่วนใหญ่จะแล้วเสร็จ แต่ที่ค้างส่วนใหญ่จะเป็นคดีที่เกี่ยวกับความมั่นคงที่มีพยานเป็นจำนวนมาก ซึ่งได้เร่งรัดให้กำชับเวลาในการพิจารณาคดี โดยเน้นให้มีการพิจารณาคดีอย่างต่อเนื่องให้กระชับเข้ามามากขึ้น ซึ่งจากเดิมอาจใช้เวลายาวเป็นปีกว่า เหลือเพียง 10 เดือน โดยเน้นให้มีการพิจารณาคดีอย่างต่อเนื่องให้กระชับเข้ามามากขึ้น