สุราษฎร์ธานี- ชุดปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวบแก๊งค้ายาเสพติดเครือข่ายเรือนจำคลองขวาง ได้ผู้ต้องหาจำนวน 3 คน พร้อมของกลางยาเสพติด อาวุธปืนสั้นอาวุธปืนสงคราม และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก
วันนี้ (22 มี.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ฉก.ท่าเพช รนายวิสูตร อินทรกำเนิด หัวหน้าชุด ฉก.ท่าเพชร) พร้อมด้วยกำลัง ป.ป.ส.ภาค 8 ตำรวจ กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวิชาญ หรือ บัง ขำนุรักษ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่278 ม.12 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดเรือนจำคลองบางขวาง พร้อมของกลางเป็นยาไอซ์ จำนวน 20.8 กรัม ยาบ้า 2 เม็ด อาวุธปืนสั้น อาวุธปืนสงคราม และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก พร้อมยึดรถยนต์ที่ต้องสงสัยโจรกรรมมาจำนวน 6 คัน ประกอบด้วย รถเก๋งและรถตู้ มาทำการตรวจสอบ
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2554 เจ้าพนักงานชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ฉก.ท่าเพชร) ได้ร่วมกันจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับตัว นายวิรัตน์ หรือจั้ง สุดเลิศ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ตำบลนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ นายเพชรภูมิ หรือ ภูมิ หรือ ยาว สุดเลิศ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 518/5 ถนนขุนทองหลาง ตำบลนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลาง ไอซ์จำนวน 21 ถุง น้ำหนัก 18.10 กรัม ยาบ้าจำนวน 2 เม็ด และอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 3 กระบอก เหตุเกิดในท้องที่อำเภอบ้านนาสาร
จากการสอบปากคำ นายเพชรภูมิ ผู้ต้องให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อยาเสพติดมาจากนายวิชาญ หรือบัง ขำนุรักษ์ เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงให้นายเพชรภูมิฯ ติดกับ นายวิชาญ เพื่อวางแผนจับกุม
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2554 เวลาประมาณ 12.00 น.เจ้าพนักงานชุดดังกล่าว ได้จับกุมสามารถจับกุมตัวนายวิชาญ ขณะขับรถตู้ผ่านบริเวณสะพานจุลจอมเกล้า อำเภอพุนพิน ตรวจค้นภายในรถตู้คันดังกล่าวพบ ของกลางไอซ์จำนวน 2.7 กรัม อาวุธปืนพกสั้นจำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนยาวชนิด AK47 (อาก้า) จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนขนาดต่างๆ รวม 272 นัด จึงควบคุมตัวนายวิชาญมาทำการสอบสวน
นายวิชาญ ให้การรับสารภาพว่า ยาไอซ์ ดังกล่าว ติดต่อซื้อมาจากนายชาติ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นต้องโทษจำคุกอยู่ที่เรือนจำคลองบางขวาง จากนั้นนายชาติจะให้คนนำยาเสพติดมาวางไว้ในจุดนัดหมาย
นายวิชาญ ยังระบุว่า เคยซื้อยาบ้าและไอซ์จากนายชาติหลายครั้ง โดยทำการซื้อยาไอซ์ครั้งละ 200-500 กรัม ยาบ้าครั้งละ 6,000-24,000 เม็ด จากนั้นนำไปจำหน่ายให้ลูกค้าในจังหวัดสุราษฎร์ธานี พัทลุง และจังหวัดใกล้เคียง
นอกจากนี้ นายวิชาญ ยังรับสารภาพว่า ตนเคยมีพฤติการณ์ขโมยรถยนต์และส่งขายในตลาดมืด และอ้างว่าปัจจุบันได้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว โดยหันมามีทำธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสอง และซื้อรถหลบหนีไฟแนนซ์ ส่งขายให้แก่นายชาติเพื่อแลกกับยาเสพติด แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงยึดรถยนต์ทั้งหมดทาทำการตรวจสอบ และพบว่าการซื้อขายรถยนต์แต่ละคันนั้น ไม่น่าถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าพนักงานชุดจับกุมจะได้สืบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป
วันนี้ (22 มี.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ฉก.ท่าเพช รนายวิสูตร อินทรกำเนิด หัวหน้าชุด ฉก.ท่าเพชร) พร้อมด้วยกำลัง ป.ป.ส.ภาค 8 ตำรวจ กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายวิชาญ หรือ บัง ขำนุรักษ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่278 ม.12 ต.คลองเฉลิม อ.กงหรา จ.พัทลุง ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดเรือนจำคลองบางขวาง พร้อมของกลางเป็นยาไอซ์ จำนวน 20.8 กรัม ยาบ้า 2 เม็ด อาวุธปืนสั้น อาวุธปืนสงคราม และเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก พร้อมยึดรถยนต์ที่ต้องสงสัยโจรกรรมมาจำนวน 6 คัน ประกอบด้วย รถเก๋งและรถตู้ มาทำการตรวจสอบ
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2554 เจ้าพนักงานชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามยาเสพติด กองบังคับการกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ฉก.ท่าเพชร) ได้ร่วมกันจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับตัว นายวิรัตน์ หรือจั้ง สุดเลิศ อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 52 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ตำบลนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ นายเพชรภูมิ หรือ ภูมิ หรือ ยาว สุดเลิศ อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 518/5 ถนนขุนทองหลาง ตำบลนาสาร อำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยของกลาง ไอซ์จำนวน 21 ถุง น้ำหนัก 18.10 กรัม ยาบ้าจำนวน 2 เม็ด และอาวุธปืนพกสั้น จำนวน 3 กระบอก เหตุเกิดในท้องที่อำเภอบ้านนาสาร
จากการสอบปากคำ นายเพชรภูมิ ผู้ต้องให้การรับสารภาพว่าได้ซื้อยาเสพติดมาจากนายวิชาญ หรือบัง ขำนุรักษ์ เจ้าพนักงานชุดจับกุมจึงให้นายเพชรภูมิฯ ติดกับ นายวิชาญ เพื่อวางแผนจับกุม
ต่อมาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2554 เวลาประมาณ 12.00 น.เจ้าพนักงานชุดดังกล่าว ได้จับกุมสามารถจับกุมตัวนายวิชาญ ขณะขับรถตู้ผ่านบริเวณสะพานจุลจอมเกล้า อำเภอพุนพิน ตรวจค้นภายในรถตู้คันดังกล่าวพบ ของกลางไอซ์จำนวน 2.7 กรัม อาวุธปืนพกสั้นจำนวน 2 กระบอก อาวุธปืนยาวชนิด AK47 (อาก้า) จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนขนาดต่างๆ รวม 272 นัด จึงควบคุมตัวนายวิชาญมาทำการสอบสวน
นายวิชาญ ให้การรับสารภาพว่า ยาไอซ์ ดังกล่าว ติดต่อซื้อมาจากนายชาติ ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งเป็นต้องโทษจำคุกอยู่ที่เรือนจำคลองบางขวาง จากนั้นนายชาติจะให้คนนำยาเสพติดมาวางไว้ในจุดนัดหมาย
นายวิชาญ ยังระบุว่า เคยซื้อยาบ้าและไอซ์จากนายชาติหลายครั้ง โดยทำการซื้อยาไอซ์ครั้งละ 200-500 กรัม ยาบ้าครั้งละ 6,000-24,000 เม็ด จากนั้นนำไปจำหน่ายให้ลูกค้าในจังหวัดสุราษฎร์ธานี พัทลุง และจังหวัดใกล้เคียง
นอกจากนี้ นายวิชาญ ยังรับสารภาพว่า ตนเคยมีพฤติการณ์ขโมยรถยนต์และส่งขายในตลาดมืด และอ้างว่าปัจจุบันได้เลิกพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว โดยหันมามีทำธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสอง และซื้อรถหลบหนีไฟแนนซ์ ส่งขายให้แก่นายชาติเพื่อแลกกับยาเสพติด แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงยึดรถยนต์ทั้งหมดทาทำการตรวจสอบ และพบว่าการซื้อขายรถยนต์แต่ละคันนั้น ไม่น่าถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งเจ้าพนักงานชุดจับกุมจะได้สืบสวนขยายผลการจับกุมต่อไป
