คลื่นยักษ์สึนามิที่ญี่ปุ่นไม่กระทบการท่องเที่ยวตรัง

ตรัง - นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง ชี้เหตุคลื่นยักษ์สึนามิล่าสุดที่ประเทศญี่ปุ่น ไม่ส่งผลกระทบต่อนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวไทย ยังคงมียอดจอง และไม่มีการยกเลิกทัวร์

วันนี้ (17 มี.ค.) นายประทีป โจ้งทอง นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิที่เกิดขึ้นล่าสุดที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับจังหวัดตรัง ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์นี้เช่นกัน เมื่อปี 2547 หรือเมื่อ 7 ปีแล้ว ถือว่ามีความแตกต่างกัน เนื่องจากบริเวณชุมชนหรือชายหาดริมทะเลตรัง จะมีเกาะแก่งต่างๆ จำนวนมากช่วยกำบังคลื่นลมเอาไว้ ประกอบกับสภาพภูมิประเทศที่มีลักษณะเป็นอ่าวเว้าเข้ามา เมื่อมีคลื่นยักษ์สึนามิเกิดขึ้น อย่างเช่นเมื่อปี 2547 จึงได้รับผลกระทบน้อย

ทั้งนี้ จะมีแค่เพียงกระแสคลื่นที่ไหลแรงเข้ามาบางส่วนเท่านั้น จึงก่อให้เกิดความสูญเสียไม่รุนแรงเหมือนกับจังหวัดอื่นในฝั่งอันดามันด้วยกัน เช่นเดียวกับบางเมืองใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่ในระดับน้ำทะเล เมื่อเกิดคลื่นยักษ์สึนามิจึงได้รับกระทบอย่างรุนแรง นอกจากนั้น จังหวัดตรังยังได้เรียนรู้ประสบการณ์จากเหตุการณ์นี้มาหลายครั้ง ทำให้เกิดความตื่นตัวและเข้าใจในสภาพของภัยธรรมชาติมากขึ้น เมื่อมีการประกาศเตือนภัยจึงพร้อมที่รองรับสถานการณ์โดยทันที

เช่น สามารถที่จะวิ่งหลบหนีไปยังเส้นทางที่กำหนดเอาไว้ เพื่อความปลอดภัยได้ ภายในเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง อีกทั้งจุดเหล่านั้นมักตั้งอยู่ในบริเวณที่สูงหรือบนภูเขา ซึ่งจะรอดพ้นจากภัยคลื่นยักษ์สึนามิได้อย่างแน่นอน ขณะที่หอเตือนภัย ซึ่งเดิมที่เคยมีการทดลองในทุกเช้า ด้วยการเปิดเพลงชาติ ซึ่งแรกๆ เสียงสัญญาณจะดังบ้างไม่ดังบ้าง หรือเปิดในตอนเช้า แต่กว่าเพลงชาติจะมาดัง ก็เป็นในช่วงเย็นแล้ว

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ 100 % แล้ว โดยเฉพาะจุดที่มีนักท่องเที่ยวไปรวมตัวอยู่เป็นจำนวนมาก หรือมีชุมชนใหญ่ๆ ตั้งอยู่ เช่น หาดปากเมง หาดเจ้าไหม ท่าเทียบเรือหาดยาว ประกอบกับพื้นที่เสี่ยงภัยส่วนใหญ่จะเป็นแค่เพียงแค่ชุมชนขนาดเล็ก จึงไม่ค่อยรู้สึกน่าห่วงเหมือนกับจังหวัดหรือประเทศอื่นๆ อีกทั้งจุดที่เกิดแผ่นดินไหว หรือคลื่นยักษ์สึนามิ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งกว่าที่ผลกระทบจะมาถึงประเทศไทย ก็ต้องใช้เวลา 1-2 ชั่วโมง ทำให้สามารถที่จะเตรียมพร้อมรับมือ หรืออพยพผู้คนได้ทัน

สำหรับเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นครั้งล่าสุด มิได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวไทยมากนัก แตกต่างไปจากหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ซึ่งเมื่อเกิดข่าวลือในลักษณะเช่นนี้ หรือมีแผ่นดินไหว มีการทำนายทายทักต่างๆ นานา ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวเกิดความหวาดผวา ไม่กล้ามาท่องเที่ยวทะเล แต่ขณะนี้ทุกอย่างดูเหมือนยังคงเป็นไปตามปกติ เพราะมียอดจองทัวร์เข้ามาเรื่อยๆ และยังไม่มีการยกเลิกแต่อย่างใด เนื่องจากผู้คนเริ่มแยกแยะและเข้าใจในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม คนในยุคก่อนจะเลือกที่อยู่อาศัยในบริเวณที่สูง แต่คนในปัจจุบันไม่สามารถทำได้ เนื่องจากพื้นที่มีจำนวนจำกัด จึงจำเป็นต้องมีการถมที่ริมทะเลเพื่อก่อสร้างบ้านเรือน จากชุมชนเล็กๆ ก็ค่อยขยายใหญ่โตมากขึ้นเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ฉะนั้น ในอนาคตเรื่องของการวางผังเมืองจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อรองรับภัยธรรมชาติที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่ล่อแหลม แต่เนื่องจากจังหวัดตรังยังเป็นเมืองที่มีขนาดเล็ก และมีชุมชนไม่หนาแน่น จึงพอมีเวลาที่จะเตรียมการวางผังเมืองเพื่อรับมือกับภัยธรรมชาติได้