นราธิวาส - เจ้าหน้าที่พบรถยนต์เก๋งที่คนร้ายใช้เป็นพาหนะปล้นร้านทองกลางเมืองโก-ลกแล้ว อยู่ในสวนยาง เบื้องต้นทองถูกฉกไป 6 ถาด กว่า 100 เส้น ซึ่งภาพกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกใบหน้าได้อย่างชัดเจน
สำหรับความคืบหน้ากรณี 7 คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามบุกปล้นร้านจำหน่ายทองรูปพรรณเลี่ยวอา ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 64 ถ.บุษยพันธ์ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา และคนร้ายได้ยิงนายวิชัย ทักษินาคุณ เจ้าของร้านทองและนายจิตติ ปลื้มใจ ยามเสียชีวิต 2 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีก 4 คน ก่อนที่จะปล้นทองรูปพรรณที่ใส่ไว้ในถาด จำนวน 6 ถาด ซึ่งมีทั้งสิ้นกว่า 100 เส้น โดยเหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (14 มี.ค.)
เมื่อเวลา 11.00 น.นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส, พล.ต.ท.ไพฑูรย์ ชูชัยยะ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พ.ต.อ.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบก.ภ.จ.นราธิวาสและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปยังป่าสวนยางพาราบ้านกูวาเขย่ง ม.2 ต.เอราวัณ อ.แว้ง จ.นราธิวาส หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฟอร์ด สีบรอนซ์ ทะเบียน กธ 970 สงขลา ซึ่งเป็นยานพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุบุกปล้นร้านทองถูกนำไปจอดทิ้งไว้
จากการตรวจสอบรถยนต์คันดังกล่าวในเบื้องต้น พบว่า คนร้ายได้นำป้ายทะเบียนปลอมมาสวมในการก่อเหตุ ซึ่งป้ายทะเบียนดังกล่าวเป็นป้ายรถยนต์เก๋งยี่ห้อโอเปิลของนางยุพิน ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ จ.สงขลา โดยภายในรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบเพียงถาดใส่ทองรูปพรรณ จำนวน 3 ใบที่กลุ่มคนร้ายได้ทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ซึ่งล่าสุดเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบว่ารถยนต์ที่คนร้ายใช้ก่อเหตุครั้งนี้เป็นของใคร
ส่วนกรณีกลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้ จากการตรวจสอบภาพวงจรปิดที่ร้านทองเลี่ยวอาได้บันทึกความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายไว้ได้นั้น เจ้าหน้าที่ได้นำไปเปิดภาพตรวจสอบในเบื้องต้นแล้ว แต่ไม่อนุญาตให้สื่อทุกแขนงนำไปเปิดเผยต่อสาธารณชน เนื่องจากเกรงจะเสียรูปคดี เพราะ 1 ในคนร้ายที่บุกปล้นในครั้งนี้ ภาพวงจรปิดสามารถบันทึกใบหน้าได้ชัดเจน เนื่องจากคนร้ายได้ทำผ้าที่ใช้สำหรับคาดใบหน้าเพื่ออำพรางตัวหล่น ซึ่งถือว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่นำไปสู่การขยายผลการจับกุมกลุ่มคนร้ายทั้ง 7 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป