ปัตตานี - แม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจประสิทธิภาพการทำงานของ "เรือเหาะ" ชี้เรือเหาะเปรียบเสมือนตาที่สามารถมองได้ทุกมุมของภูมิประเทศในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนได้ดี
วันนี้ (1 มี.ค.) พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เดินทางไปที่กองพลทหารราบที่ 15 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อตรวจประสิทธิภาพการทำงานของระบบเฝ้าตรวจทางอากาศ และได้กล่าวถึงประโยชน์ของเรือเหาะว่า เรือเหาะเปรียบเสมือนตาที่สามารถมองได้ทุกมุมของภูมิประเทศในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่หน่วยจัดกำลังเข้าปฏิบัติการ
เช่น การปฏิบัติการในพื้นที่ป่าเขา เรือเหาะที่เฝ้าตรวจอยู่สามารถทำให้เห็นว่าในป่านั้นมีสภาพเป็นอย่างไร ในขณะที่เข้าปฏิบัติการ
นอกจากปฏิบัติภารกิจทางทหารแล้ว ยังมีแนวคิดสนับสนุนให้กับกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ เช่น การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ หรือทรัพยากรชายฝั่ง สามารถที่จะใช้เรือเหาะ หรือเฮลิคอปเตอร์ติดกล้องขึ้นบินตรวจการณ์ ทำให้เห็นภาพมุมสูงของทรัพยากรธรรมชาติ หรือในงานด้านอื่นๆ ได้
ส่วนระดับการบิน สามารถบินได้ระดับตั้งแต่ 3,000 ฟุต ไม่มีปัญหาใดๆ สามารถตรวจสอบได้ การทำงานของเรือเหาะและเฮลิคอปเตอร์ที่ติดกล้อง สามารถทำงานได้ครอบคลุมพื้นที่ สามารถที่จะสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนได้ดี
ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ยังได้กล่าวถึงระบบเฝ้าตรวจทางอากาศที่ได้รับมาจากหน่วยเหนืออย่างมั่นใจว่า จะช่วยในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และงานด้านการรักษาทรัพยากรธรรมชาติได้ดีขึ้นกว่าเดิม และสามารถช่วยงานที่ทำอยู่ปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเฝ้าตรวจทางอากาศ ประกอบด้วย เรือเหาะติดกล้องตรวจการณ์ เฮลิคอปเตอร์ติดกล้องตรวจการณ์ และรถปฏิบัติการเคลื่อนที่
ในส่วนของเรือเหาะนั้น ทำการบังคับควบคุมโดยนักบิน ใช้กล้องตรวจการณ์เวลากลางวันและกลางคืน สามารถถ่ายและบันทึกภาพได้ด้วยความละเอียดสูง สามารถตรวจจับความร้อน รวมทั้งตรวจจับระยะ และชี้เป้าหมายได้ โดยลอยตัวอยู่ในอากาศได้เป็นเวลานาน หรือทำการบินลาดตระเวนตามวงรอบเพื่อปฏิบัติงานด้านการข่าวที่ต้องการ ด้วยเสียงที่เงียบกว่าอากาศยานประเภทอื่นๆ
วันนี้ (1 มี.ค.) พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เดินทางไปที่กองพลทหารราบที่ 15 ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เพื่อตรวจประสิทธิภาพการทำงานของระบบเฝ้าตรวจทางอากาศ และได้กล่าวถึงประโยชน์ของเรือเหาะว่า เรือเหาะเปรียบเสมือนตาที่สามารถมองได้ทุกมุมของภูมิประเทศในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่หน่วยจัดกำลังเข้าปฏิบัติการ
เช่น การปฏิบัติการในพื้นที่ป่าเขา เรือเหาะที่เฝ้าตรวจอยู่สามารถทำให้เห็นว่าในป่านั้นมีสภาพเป็นอย่างไร ในขณะที่เข้าปฏิบัติการ
นอกจากปฏิบัติภารกิจทางทหารแล้ว ยังมีแนวคิดสนับสนุนให้กับกระทรวง ทบวง กรมอื่นๆ เช่น การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ หรือทรัพยากรชายฝั่ง สามารถที่จะใช้เรือเหาะ หรือเฮลิคอปเตอร์ติดกล้องขึ้นบินตรวจการณ์ ทำให้เห็นภาพมุมสูงของทรัพยากรธรรมชาติ หรือในงานด้านอื่นๆ ได้
ส่วนระดับการบิน สามารถบินได้ระดับตั้งแต่ 3,000 ฟุต ไม่มีปัญหาใดๆ สามารถตรวจสอบได้ การทำงานของเรือเหาะและเฮลิคอปเตอร์ที่ติดกล้อง สามารถทำงานได้ครอบคลุมพื้นที่ สามารถที่จะสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนได้ดี
ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ยังได้กล่าวถึงระบบเฝ้าตรวจทางอากาศที่ได้รับมาจากหน่วยเหนืออย่างมั่นใจว่า จะช่วยในการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และงานด้านการรักษาทรัพยากรธรรมชาติได้ดีขึ้นกว่าเดิม และสามารถช่วยงานที่ทำอยู่ปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ระบบเฝ้าตรวจทางอากาศ ประกอบด้วย เรือเหาะติดกล้องตรวจการณ์ เฮลิคอปเตอร์ติดกล้องตรวจการณ์ และรถปฏิบัติการเคลื่อนที่
ในส่วนของเรือเหาะนั้น ทำการบังคับควบคุมโดยนักบิน ใช้กล้องตรวจการณ์เวลากลางวันและกลางคืน สามารถถ่ายและบันทึกภาพได้ด้วยความละเอียดสูง สามารถตรวจจับความร้อน รวมทั้งตรวจจับระยะ และชี้เป้าหมายได้ โดยลอยตัวอยู่ในอากาศได้เป็นเวลานาน หรือทำการบินลาดตระเวนตามวงรอบเพื่อปฏิบัติงานด้านการข่าวที่ต้องการ ด้วยเสียงที่เงียบกว่าอากาศยานประเภทอื่นๆ