xs
xsm
sm
md
lg

ศอ.บต.ถกชาวบ้านหลังพบแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จชต.ล่าช้า ไม่บรรลุเป้าหมาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


นราธิวาส - ศอ.บต.เรียกประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 13 อำเภอ ชี้แจงปรับแผนพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ส่งเสริมอาชีพที่ชาวบ้านถนัด หลังพบที่ผ่านมาล่าช้าและไม่บรรลุเป้าหมาย

เมื่อเวลา 10.00 น.วันนี้ (16 ก.พ.) ณ ห้องประชุมนราทัศน์ โรงแรมอิมพีเรียล อ.เมือง จ.นราธิวาส นายวรรณธรรม กาญจนสุวรรณ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เดินทางมาเป็นประธานในพิธีประชุมชี้แจงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และนายก อบต.ต่อกระบวนการขับเคลื่อนแผนการพัฒนาพื้นที่พิเศษ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อรับทราบความคืบหน้าในการดำเนินการ รวมทั้งรับทราบอุปสรรคปัญหาข้อขัดข้อง หลังจากที่ทางรัฐบาลได้จัดสรรเงินงบประมาณในการพัฒนาลงไปในพื้นที่ทั้ง 5 จชต.ตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 จนถึงปัจจุบัน แต่ไม่บรรลุตามเป้าหมายที่ทางรัฐบาลตั้งไว้

การประชุมในครั้งนี้ มีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และนายก อบต.ในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส จำนวนกว่า 700 คน เข้าร่วมประชุมและชี้แจงปัญหาอุปสรรค์รวมถึงข้อขัดข้องต่างๆจากความต้องการของประชาชนในแต่ละพื้นที่ผ่านเวทีประชาคม

สรุปในภาพรวมที่ทำการโครงการดังกล่าวล่าช้า จากความไม่มีเอกภาพของหัวหน้าส่วนราชการที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งอยู่ในฐานะพี่เลี้ยงที่ทางรัฐบาลได้แต่งตั้งขึ้น คือไม่สามารถที่จะบูรณาการในการผันงบ เช่น ชาวบ้านต้องการเลี้ยงไก่ แต่เมื่อดำเนินการไปแล้วประมาณ 30-40 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีความชำนาญ และไม่ประสบความสำเร็จ

แต่ชาวบ้านอยากที่จะเลี้ยงปลาในกระชัง แทนจากงบที่เหลือก็ไม่สามารถที่จะกระทำได้ เพราะเมื่อปรึกษาพี่เลี้ยงซึ่งเป็นตัวแทนจังหวัดแล้ว พบว่าเงินที่เหลือไม่สามารถผันไปประกอบอาชีพอื่นๆ ได้ตามที่ชาวบ้านถนัดกว่า ชาวบ้านจึงจำเป็นต้องใช้งบที่เหลือดำเนินการต่อไปถึงไม่ประสบความสำเร็จก็ตาม ก็ยอมต้องนำงบมาตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

เรื่องดังกล่าวนี้ นายวรรณธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง จึงมีความจำเป็นต้องเรียกผู้ใหญ่บ้าน กำนัน และ นายก อบต.มาทำความเข้าใจ เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์ให้กับชาวบ้านได้รับรู้ เพื่อให้ชาวบ้านแต่ละครัวเรือนในแต่ละพื้นที่ ที่มีศักยภาพแตกต่างกันได้เข้าใจและรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนในการเลือกสรรอาชีพที่แต่ละกลุ่มถนัด เพื่อที่จะได้เงินงบประมาณดังกล่าวมาดำเนินการโดยที่ไม่สูญเปล่า เพื่อให้แต่ละครอบครัวสามารถทำรายได้ต่อปีไม่ต่ำกว่าครอบครัวละ 120,000 บาท ซึ่งเป็น 1 โครงการที่สามารถทำให้ชาวบ้านสามารถอาศัยอยู่ได้ด้วยความสงบสุข แม้สถานการณ์ความไม่สงบจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องๆ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ตาม


กำลังโหลดความคิดเห็น