ศูนย์ข่าวภูเก็ต- ภูเก็ตกำหนดชัดเจนแล้ว ค่ารถโดยสารในเขตเมืองป่าตองเก็บได้ไม่เกิน 200 บาท/เที่ยว หากผู้โดยสารเกิน 4 คน ให้เพิ่มได้คนละ 50 บาท
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายกนก ศิริพานิชกร ขนส่งจังหวัดภูเก็ต นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ประธานสหพันธ์รถบริการป่าตอง นายศิริพัฒน์ พัฒกุล นายอำเภอกะทู้ ตัวแทนจากเทศบาลเมืองป่าตอง และอำเภอกะทู้ ร่วมประชุมหารือกำหนดค่าโดยสารรับจ้างเขตป่าตอง
นายตรี กล่าวว่า ปัจจุบันการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถรับจ้าง ภายในเขตเทศบาลเมืองป่าตองและจากเขตเทศบาลเมืองป่าตอง ไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ยังไม่มีการกำหนดให้ราคาที่มาตรฐานและเป็นธรรม ส่งผลให้การเรียกเก็บค่าโดยสารจากนักท่องเที่ยวและประชาชนยังคงมีความเหลื่อมล้ำและไม่มีเอกภาพเท่าที่ควร
ฉะนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาการเรียกเก็บค่าโดยสารรถรับจ้างในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง และการเรียกเก็บค่าโดยสารรถรับจ้างจากเขตเทศบาลเมืองป่าตอง ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตให้มีราคามาตรฐานเดียวกัน
คณะกรรมการมีมติในการกำหนดค่าโดยสารรถรับจ้างในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต สำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน อัตราค่าโดยสารรถรับจ้างสูงสุดเที่ยวละไม่เกิน 200 บาท ถ้าเกิน 4 คน ให้คิดเพิ่มได้คนละไม่เกิน 50 บาท ส่วนอัตราค่าโดยสารรถรับจ้างจากเขตเทศบาลเมืองป่าตองไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็จก็ได้มีการกำหนดไว้ ซึ่งทางเทศบาลเมืองป่าตอง และสถานีตำรวจภูธรกะทู้จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและผู้โดยสารทราบต่อไป
ด้าน นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า การกำหนดอัตราค่าโดยสารในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อจังหวัดภูเก็ตในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่งในช่วงแรกอาจมีการฝ่าฝืนบ้าง แต่ในอนาคตก็คงจะปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อชื่อเสียงของชาวจังหวัดภูเก็ต และเป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้น
ส่วน นายปรีชาวุฒิ ได้กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจแต่อย่างใดในเรื่องนี้ เพียงแต่ช่วงแรกก็ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กับกลุ่มรถบริการได้รับทราบ ซึ่งอาจมีบางส่วนที่เสียเปรียบ เนื่องจากมีการตั้งคิวในพื้นที่ต่างๆ กันแต่ก็ต้องมีการทำความเข้าใจกัน เพื่อความยั่งยืนของการท่องเที่ยวในป่าตองและเป็นรายได้ของทุกคน ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการด้านรถรับจ้างก็ไม่สามารถอยู่ได้ ซึ่งในระยะยาวคาดว่าจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ห้องรับรองศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายวีระวัฒน์ จันทร์เพ็ญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายกนก ศิริพานิชกร ขนส่งจังหวัดภูเก็ต นายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ประธานสหพันธ์รถบริการป่าตอง นายศิริพัฒน์ พัฒกุล นายอำเภอกะทู้ ตัวแทนจากเทศบาลเมืองป่าตอง และอำเภอกะทู้ ร่วมประชุมหารือกำหนดค่าโดยสารรับจ้างเขตป่าตอง
นายตรี กล่าวว่า ปัจจุบันการกำหนดอัตราค่าโดยสารรถรับจ้าง ภายในเขตเทศบาลเมืองป่าตองและจากเขตเทศบาลเมืองป่าตอง ไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ต ยังไม่มีการกำหนดให้ราคาที่มาตรฐานและเป็นธรรม ส่งผลให้การเรียกเก็บค่าโดยสารจากนักท่องเที่ยวและประชาชนยังคงมีความเหลื่อมล้ำและไม่มีเอกภาพเท่าที่ควร
ฉะนั้น เพื่อแก้ไขปัญหาการเรียกเก็บค่าโดยสารรถรับจ้างในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง และการเรียกเก็บค่าโดยสารรถรับจ้างจากเขตเทศบาลเมืองป่าตอง ไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็ตให้มีราคามาตรฐานเดียวกัน
คณะกรรมการมีมติในการกำหนดค่าโดยสารรถรับจ้างในเขตเทศบาลเมืองป่าตอง อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต สำหรับผู้โดยสารไม่เกิน 4 คน อัตราค่าโดยสารรถรับจ้างสูงสุดเที่ยวละไม่เกิน 200 บาท ถ้าเกิน 4 คน ให้คิดเพิ่มได้คนละไม่เกิน 50 บาท ส่วนอัตราค่าโดยสารรถรับจ้างจากเขตเทศบาลเมืองป่าตองไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ ในจังหวัดภูเก็จก็ได้มีการกำหนดไว้ ซึ่งทางเทศบาลเมืองป่าตอง และสถานีตำรวจภูธรกะทู้จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการและผู้โดยสารทราบต่อไป
ด้าน นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า การกำหนดอัตราค่าโดยสารในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีต่อจังหวัดภูเก็ตในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่งในช่วงแรกอาจมีการฝ่าฝืนบ้าง แต่ในอนาคตก็คงจะปฏิบัติให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทั้งนี้ เพื่อชื่อเสียงของชาวจังหวัดภูเก็ต และเป็นการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้น
ส่วน นายปรีชาวุฒิ ได้กล่าวว่า ไม่รู้สึกหนักใจแต่อย่างใดในเรื่องนี้ เพียงแต่ช่วงแรกก็ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กับกลุ่มรถบริการได้รับทราบ ซึ่งอาจมีบางส่วนที่เสียเปรียบ เนื่องจากมีการตั้งคิวในพื้นที่ต่างๆ กันแต่ก็ต้องมีการทำความเข้าใจกัน เพื่อความยั่งยืนของการท่องเที่ยวในป่าตองและเป็นรายได้ของทุกคน ถ้าไม่มีนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการด้านรถรับจ้างก็ไม่สามารถอยู่ได้ ซึ่งในระยะยาวคาดว่าจะไม่มีปัญหาแต่อย่างใด