ศูนย์ข่าวภูเก็ต -ศตส.จ.ภก. ผลักดันให้พิสูจน์หลักฐานตำรวจ-ศูนย์วิทยาศาสตร์กรแพทย์ที่ 14 (ภูเก็ต) สามารถตรวจยืนยันสารเสพติดในปัสสาวะ ได้เพื่อลดระยะเวลาในการตรวจ แก้ปัญหาผลตรวจออกมาไม่ตรงทำผู้ต้องหาหลุดหลายคดี
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดภูเก็ต(POC) พ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เป็นประธานประชุมศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต(ศตส.จ.ภก.)เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา การตรวจยืนยันสารเสพติดในปัสสาวะของผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่จะต้องส่งไปตรวจในพื้นที่อื่น ทำให้ปัญหาการตรวจผลออกมาไม่ตรงกันและทำให้ไม่สามารถยื่นฟ้องผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดได้
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ศตส.จ.ภก.จึงได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการพิจารณากำหนดให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 14 (ภูเก็ต) เป็นสถานตรวจพิสูจน์ และได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ในการขอความร่วมมือพิจารณาระเบียบข้อกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติ เพื่ออนุญาตให้พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต ตรวจยืนยันสารเสพติดในปัสสาวะได้
จากประเด็นดังกล่าว สรุปได้ว่า ทั้งพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต และศูนย์วิทยาศาสตร์กรแพทย์ที่ 14 (ภูเก็ต) ไม่สามารถตรวจยืนยันสารเสพติดในปัสสาวะได้ จึงได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขึ้นดังกล่าวในวันนี้ เพื่อหาข้อยุติและแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการในพื้นที่
พ.ต.อ.โกมล กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น ศตส.จ.ภก.จึงหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยการผลักดันให้พิสูจน์หลักฐานตำรวจ ศูนย์วิทยาการแพทย์ที่ 14 (ภูเก็ต) สามารถตรวจพิสูจน์ยืนยันสารเสพติดในปัสสาวะ เพื่อลดระยะเวลาในการส่งตรวจ เชื่อว่าถ้าทำได้ในจังหวัดจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องของผลตรวจไม่ตรงกันได้ และสามารถส่งฟ้องผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน
วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ห้องประชุมศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดภูเก็ต(POC) พ.ต.อ.โกมล วัตรากรณ์ รองผบก.ภ.จว.ภูเก็ต เป็นประธานประชุมศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดจังหวัดภูเก็ต(ศตส.จ.ภก.)เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา การตรวจยืนยันสารเสพติดในปัสสาวะของผู้ต้องหาคดียาเสพติด ที่จะต้องส่งไปตรวจในพื้นที่อื่น ทำให้ปัญหาการตรวจผลออกมาไม่ตรงกันและทำให้ไม่สามารถยื่นฟ้องผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดได้
ทั้งนี้ เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ศตส.จ.ภก.จึงได้มีหนังสือถึงอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อขอความอนุเคราะห์ในการพิจารณากำหนดให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 14 (ภูเก็ต) เป็นสถานตรวจพิสูจน์ และได้มีหนังสือถึงผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ในการขอความร่วมมือพิจารณาระเบียบข้อกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติ เพื่ออนุญาตให้พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต ตรวจยืนยันสารเสพติดในปัสสาวะได้
จากประเด็นดังกล่าว สรุปได้ว่า ทั้งพิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ต และศูนย์วิทยาศาสตร์กรแพทย์ที่ 14 (ภูเก็ต) ไม่สามารถตรวจยืนยันสารเสพติดในปัสสาวะได้ จึงได้มีการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขึ้นดังกล่าวในวันนี้ เพื่อหาข้อยุติและแนวทางปฏิบัติในการดำเนินการในพื้นที่
พ.ต.อ.โกมล กล่าวว่า จากปัญหาดังกล่าวข้างต้น ศตส.จ.ภก.จึงหาแนวทางแก้ไขปัญหาโดยการผลักดันให้พิสูจน์หลักฐานตำรวจ ศูนย์วิทยาการแพทย์ที่ 14 (ภูเก็ต) สามารถตรวจพิสูจน์ยืนยันสารเสพติดในปัสสาวะ เพื่อลดระยะเวลาในการส่งตรวจ เชื่อว่าถ้าทำได้ในจังหวัดจะสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องของผลตรวจไม่ตรงกันได้ และสามารถส่งฟ้องผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน