สุราษฎร์ธานี - วางการยางป่วน “กล้ายาง” ขาดตลาดหนักไม่พอป้อนความต้องการของเกษตรกร เตือนซื้อต้นยางชำถุงต้องระวังอาจไม่ได้มาตรฐานและไม่ตรงตามสายพันธุ์
นายพนัส แพชนะ นักวิชาการเกษตร ชำนาญการพิเศษ ศูนย์วิจัยยางสุราษฎร์ธานี เปิดเผยถึงปริมาณความต้องการตอตาเขียวเพื่อนำไปผลิตต้นยางชำถุงปีนี้ว่ามีปริมาณความต้องการมากเกินกำลังที่ผู้ผลิตจะทำการผลิตส่งให้ผู้ผลิตยางชำถุงได้ทันตามที่กำหนด
ภายหลังจากการที่ภาครัฐตัดสินใจเดินหน้าโครงการยาง 8 แสนไร่บวกกับกระแสราคายางพาราที่พุ่งสูงขึ้นถึงกว่า 150 บาทต่อกิโลกรัม ส่งผลให้เกษตรกรและผู้สนใจทั่วไปหันมาปลูกยางพาราเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ผลิตกล้ายางเร่งระดมกว้านซื้อตอตาเขียวที่มีราคาสูงเป็นประวัติการณ์ถึงตอละกว่า 15 บาทไปผลิตต้นยางชำถุง
ทั้งนี้ แม้ผู้ผลิตจะมีแปลงกล้าที่ได้ทำการเพาะเมล็ดไว้เป็นจำนวนมากไว้ก็ตาม แต่ต้องพบกับปัญหาข้อจำกัดทั้งเรื่องต้นตอและแรงงานคนติดตายางที่ขาดตลาด จึงคาดว่าต้นยางชำถุงในปีนี้จะมีราคาพุ่งสูงขึ้นถึงต้นละ 40- 50 บาท นอกจากนี้เกษตรกรและผู้ปลูกต้องพึงระวัง ในเรื่องต้นยางชำถุงที่อาจไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ตรงตามสายพันธุ์