ยะลา - ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ชี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมการฆ่ายกครัว 4 ศพไว้ 2 ประเด็น เรื่องสถานการณ์ความไม่สงบ และเรื่องส่วนตัว พร้อมติดตามพยานที่พบเห็นมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป เพื่อรีบคลี่คลายคดีโดยเร็ว อีกทั้งเร่งติดตามผู้ที่ก่อเหตุต่อไป
วันนี้ (2 ก.พ.) จากเหตุการณ์กลุ่มคนร้ายฆ่ายกครัว 4 ศพ พ่อแม่ลูก คือ 1.นายประสิทธิ์ บุญหลง อายุ 43 ปี 2.นางมณี ศรีขวัญ อายุ 36 ปี 3.น.ส.รุ่งรัชณี บุญหลง อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.ยะลา และ 4.ด.ช.รุ่งระพี บุญหลง อายุ 7 ขวบ ทั้งหมดอยู่บ้านเลขที่ 38/3 หมู่ที่ 6 บ้านศรีภัคดี ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 30 ม.ค.54 ที่ผ่านมา หลังก่อเหตุกลุ่มคนร้ายได้นำศพทั้งหมดมาทิ้งในป่าละเมาะที่บ้านบาโงตือบู หมู่ที่ 13 ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา จนมีชาวบ้านมาพบศพส่งกลิ่นเหม็นเน่าและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าวเมื่อวันที่ 1 ก.พ.54
สำหรับความคืบหน้าเหตุดังกล่าววันนี้ (2 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ในเขตเทศบาลนครยะลา อ.เมือง จ.ยะลา พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าในเรื่องนี้ว่า หลังจากที่มีการพบศพ 4 ศพ เมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ซึ่งเป็นพ่อแม่และลูกอีก 2 คน หลังจากที่มีการพบศพแล้วได้มีการตรวจสอบที่เกิดเหตุและชันสูตรพลิกศพ โดยส่งไปชันสูตรที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา พบว่าผู้ตายถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืน และอาวุธมีด โดยเฉพาะภรรยา และบุตรสาว อายุ 16 ปี นอกจากจะร่องรอยถูกยิง 2 แผลแล้วยังมีรอยแผลจากการถูกแทงด้วยอาวุธมีด 31 แผล ถือว่าเป็นการกระทำที่มีความรุนแรง
กรณีนี้ตนได้รับการประสานงานกับทาง สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาสว่า ได้รับแจ้งว่ามีครอบครัวหนึ่งหายไปตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.ที่ผ่านมา และทาง สภ.รือเสาะ ได้มีการสืบสวนติดตามครอบครัวดังกล่าวที่หายไป พบจุดที่เป็นร่องรอยของการต่อสู้และการยิง พบรอยเลือด และพบปลอกกระสุนปืนระหว่างเส้นทางจะกลับบ้าน มีระยะห่างประมาณ 8 กิโลเมตร จุดที่พบรอยเลือด กับปลอกกระสุน บริเวณหมู่ที่ 5 บ้านบาเดจืองา ต.โคกสะตอ ซึ่งบ้านของผู้เสียชีวิตทั้ง 4 อยู่ที่หมู่ที่ 6 บ้านศรีภัคดี ต.โคกสะตอ
จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รือเสาะไม่พบผู้เสียชีวิต และผู้ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุแต่อย่างใด แต่ว่าทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานก็ได้เก็บข้อมูลวัตถุพยาน และร่องรอยต่างๆ ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุทั้งหมดจนมาพบศพ 4 ศพในพื้นที่ ต.สะเตงนอก อ.เมือง จ.ยะลา ดังกล่าว
เนื่องจากว่าคดีนี้ต้นเหตุเกิดขึ้นจากในพื้นที่ สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ซึ่งพนักงานสอบสวนก็เป็นพนักงานสอบสวนที่รับผิดชอบในส่วนของการสอบสวน ส่วนการชันสูตรพลิกศพทั้ง 4 ศพนั้นเป็นหน้าที่รับผิดชอบของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ซึ่งหลังเกิดเหตุตนเองได้เรียกผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด เข้าเข้าร่วมประชุม เพื่อหาแนวทางในการสืบสวนสอบสวนขยายผลเพื่อเป็นการช่วย กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ในการที่จะติดตามผู้ที่ก่อเหตุ
และในช่วงเช้าที่ผ่านมา ตนเองได้สั่งการให้รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา นำทีมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 จ.ยะลา เข้าไปตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบศพอีกครั้งหนึ่ง และ ให้เร่งตรวจสอบเส้นทางย้อนกลับไป เพื่อหาร่องรอยและพยานหลักฐาน เพราะเมื่อวานนี้ (1 ก.พ.) ได้มีการประชุมร่วมระหว่างพนักงานสอบสวนกองบังคับการภูธรจังหวัดนราธิวาส และจากกองบังคับการภูธรจังหวัดยะลา และมีการเชิญตัวญาติพี่น้องผู้ที่เสียชีวิต รวมทั้ง ผบ.ร้อยของทหารที่รับผิดชอบในพื้นที่ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นบ้านของผู้เสียชีวิตมาร่วมประชุมเพื่อที่จะทำการขายายผล
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมการก่อเหตุในครั้งนี้ไว้ 2 ประเด็นด้วยกัน คือ ประเด็นแรกเรื่องการก่อความไม่สงบในพื้นที่ เนื่องจากครอบครัวดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ ต.โคกสะตอ อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดเหตุความรุนแรงหลายต่อหลายครั้ง ผู้เสียชีวิตเป็นทั้ง ชรบ.และ อรบ. ซึ่งก็มีความล่อแหลมต่อการที่จะถูกลอบทำร้าย ส่วนในประเด็นที่ 2 คือ เรื่องส่วนตัว เนื่องจากผู้เสียชีวิตมีที่ดินหลายแปลง มีอาชีพทำสวนยางพารา และค่อนข้างมีฐานะ นอกจากนั้นยังเป็นผู้ที่รับจ้างคอยบุกเบิกปรับที่ดิน และมีรถแทรกเตอร์ของตนเองจำนวน 6 คัน ซึ่งอาจจะมีการขัดแย้งกับเจ้าของที่ดินเดิม หรือว่าขัดแย้งกับผู้ที่จะขอให้ทำการบุกเบิกเพื่อที่จะเปิดป่าในการทำสวนยางพารา ซึ่ง 2 ประเด็นนี้ก็เป็นสิ่งที่ฝ่ายสืบสวนของกองบังคับการภูธรจังหวัดนราธิวาสต้องไปดำเนินการต่อไป
นอกจากนั้นแล้ว ชุดสืบสวนสอบสวนของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส ก็จะได้รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวกับพยานต่างๆ ที่ได้พบเห็นรถยนต์ของผู้เสียชีวิตผ่านไปทางตลาด อ.รือเสาะ เป็นระยะ จนหายไป และมาพบศพทั้ง 4 ศพดังกล่าว มีพยานและมีผู้พบเห็นว่ารถยนต์ของผู้ตาย คือรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ไทเกอร์ ดีโฟร์ดี สีไข่ไก่ ทะเบียน บจ-4179 ยะลา มีชายวัยรุ่นนั่งกระบะท้ายจำนวนหลายคน ก็ได้มีการพูดคุยสอบถามกัน ในกระบะท้ายมีผ้าคลุมปกปิดอย่างมิดชิด ชายวัยรุ่นที่อยู่ในท้ายกระบะก็บอกกับคนที่สอบถามว่ามาจากการเชือดวัว ในส่วนนี้ทางกองบังคับการภูธรจังหวัดนราธิวาสก็ต้องไปติดตามพยานที่พบเห็นมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป เพื่อรีบคลี่คลายคดีโดยเร็ว