อากาศแปรปรวนทำเต่าทะเลไม่ขึ้นวางไข่ฝั่งอันดามัน

ศูนย์ข่าวภูเก็ต -อากาศแปรปรวนทำเต่าทะเลฝั่งอันดามันไม่ขึ้นวางไข่ ขณะที่การศึกษาชีวิตเต่าทะเลหลังปล่อยกลับทะเล โดยการติดเครื่องรับสัญญาณดาวเทียมในเต่าขนาดเล็กยังทำต่อ ล่าสุดปล่อยกลับทะเลอีก 2 ตัว พบเต่าทะเลยังไม่คุ้นกับการกินอาหารในธรรมชาติเตรียมปรับเปลี่ยนวิธีเลี้ยงก่อนปล่อย

นายก้องเกียรติ กิตติวัฒนาวงศ์ หัวหน้ากลุ่มสัตว์ทะเลหายาก สภาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน ภูเก็ต กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กล่าวถึงปัญหาการไม่ขึ้นมาวางไข่ของเต่าทะเลในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันว่า โดยปกติในช่วงเดือน พ.ย.-มี.ค.ของทุกปี เต่าทะเลจะขึ้นวางไข่ที่บริเวณชายหาดต่างๆ ในพื้นที่ฝั่งทะเลอันดามันแล้ว แต่ปีนี้ยังไม่พบการขึ้นมาวางไข่ของเต่าทะเลที่บริเวณชายหาดเลย

สาเหตุที่ทำให้เต่าทะเลขึ้นไม่ขึ้นมาวางไข่ในช่วงนี้ ทั้งๆ ที่เป็นช่วงฤดูวางไข่ของเต่าทะเลคาดว่าน่าจะเกิดจากสภาพอากาศที่แปรปรวนและผิดปกติโดยในขณะนี้มีฝนตกบ่อยครั้ง อุณหภูมิต่ำไม่เหมาะกับการขึ้นมาวางไข่ของเต่าทะเล

อุณหภูมิที่เหมะสมต่อการวางไข่ของเต่าทะเลจะอยู่ที่ประมาณ 29.2 องศาเซลเซียส โดยเต่าทะเลจะรับรู้สภาพอากาศ เมื่อมองว่าสภาพอากาศยังไม่เหมาะสมก็จะไม่ขึ้นมาวางไข่

อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมาพบว่า มีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ประมาณ 50 รัง แต่พบว่าอัตราการฟักออกมาเป็นตัวนั้นมีไม่มากนัก เนื่องจากบริเวณแหล่งวางไข่ที่สำคัญของเต่าทะเลที่บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์จังหวัดพังงาพบว่า จุดที่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ถูกคลื่นซัดเข้าไปถึง ทำให้ส่งผลกระทบต่อไข่เต่าที่แม่เต่าขึ้นมาวางไว้ พบว่ามีไข่เต่าที่เน่าเสียจำนวนมาก

ส่วนความคืบหน้าการติดสัญญาณดาวเทียมบนเต่าขนาดเล็ก ที่ปล่อยกลับสู่ทะเลเพื่อศึกษาวงจรชีวิตของเต่าทะเลและโอกาสรอดของเต่าทะเลนั้น นายก้องเกียรติกล่าวว่า ขณะนี้การทดลองติดสัญญาณดาวเทียมที่เต่าทะเลอายุประมาณ 2 ปีได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการปล่อยเต่าทะเลติดสัญญาณดาวเทียมกลับสู่ทะเลอีก 2 ตัว ที่บริเวณเขาหน้ายักษ์หาดท้ายเหมือง จ.พังงา

ผลการดำเนินการที่ผ่านมาพบว่า การปล่อยเต่าขนาดอายุ 2 ปี มีโอกาสรอดมากกว่าการปล่อยเต่าขนาดเล็ก ซึ่งเต่าที่ปล่อยขนาดอายุ 1-2 ปีจะมีขนาดเต่ากับเต่าอายุ 5 ปีในธรรมชาติ และจากการเฝ้าติดตามเต่าที่ปล่อยกลับสู่ทะเลพบว่า จุดหมายปลายทางของเต่าทะเลจะไปหากินที่บริเวณชายฝั่ง

อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาข้อมูลพบว่าเต่าทะเลที่ปล่อยกลับสู่ทะเลไม่คุ้นเคยกับอาหารในธรรมชาติ ไม่รู้จักอาหารทั้งๆที่การปล่อยนั้นนำไปปล่อยในแหล่งหญ้าทะเล ซึ่งเป็นอาหารของเต่าทะเลแต่หากินไม่พบ ต่อไปนี้จะต้องมีการปรับปรุงวิธีการเลี้ยงลูกเต่าใหม่จากเดิมที่ให้กินปลาเป็นอาหารก็จะมาเสริมในเรื่องของหญ้าทะเลเพิ่มขึ้น เพื่อให้เต่าได้รู้จักอาหารเวลาปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ

ขณะที่ นายวัฒนา พระประเสริฐ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาลำปี-หาดท้ายเหมือง อำเภอท้ายเหมือง จ.พังงา กล่าวถึงการขึ้นมาวางไข่ของเต่าทะเลที่บริเวณหาดใต้เหมืองจังหวัดพังงา ว่า ปีนี้ยังไม่พบมีเต่าทะเลขึ้นมาวางไข่เลย

สาเหตุที่เต่าทะเลขึ้นมาวางไข่ช้า เชื่อว่าน่าจะเกิดจากสภาพอากาศและอุณหภูมิที่แปรปรวนรวมทั้งมีฝนตกชุกซึ่งเรื่องของสภาพอากาศ ถือว่าเป็นสาเหตุใหญ่ของการขึ้นมาวางไข่ของเต่าทะเล

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าปีนี้ถ้าอากาศกลับเข้าสู่ภาวะปกติก็น่าจะมีเต่าขึ้นมาวางไข่เหมือนเดิม โดยในปีที่ผ่านมาบริเวณหาดท้ายเหมืองมีเต่ามะเฟืองขึ้นมาวางไข่จำวน 4 รัง มีลูกเต่ามะเฟืองฟักออกเป็นตัวจำนวน 758 ตัวและได้ปล่อยกลับสู่ทะเลทั้งหมดแล้ว