นราธิวาส - ทหาร ฉก.38 ระแงะ เรียกตรวจวัยรุ่นขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ แต่กลับเร่งเครื่องหนี จึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ผู้บาดเจ็บเผยไปซื้อใบกระท่อมมา แต่กลีวจึงเร่งรถหนี ขณะที่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ผู้สื่อข่าวทำข่าว พร้อมสั่งให้ลบภาพที่บันทึกไว้ออกจากกล้อง อ้างเกรงเสียรูปคดี
วันนี้ (30 ม.ค.) เมื่อเวลา 12.40 น. ร.ต.ท.นรเศรษฐ์ สุขศรี ร้อยเวร สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บมารักษาตัวที่โรงพยาบาลระแงะ 2 คน จึงพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่งเดินทางไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลพบแพทย์กำลังปฐมพยาบาลบุคคลทั้ง 2 บนเตียงคนไข้ห้องฉุกเฉิน ทราบชื่อคือ 1.นายมูฮาหมัด สาเมาะ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/1 ม.10 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกกระสุนปืนเอ็ม.16 ที่บริเวณแผ่นหลัง หน้าท้อง 2.นายรอกิม สะมะแอ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/1 ม.10 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งถูกกระสุนปืนชนิดเดียวกันที่บริเวณหน้าท้อง 1 นัด
นายรอกิม ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุตน และนายมูฮาหมัด ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักเพื่อเดินทางไปซื้อใบกระท่อมสด เมื่อแล้วเสร็จตนและนายมูฮาหมัด ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เพื่อเดินทางกลับบ้านพัก โดยผ่านเส้นทางลัดภายในหมู่บ้านกอแนะ ม.6 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส และได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร 2 นาย ขับขี่รถจักรยานยนต์สวนทางกันมาและได้ส่งสัญญาณเรียกให้ตนจอดรถจักยานยนต์เพื่อขอตรวจค้น
ด้วยความกลัวที่ตนแอบไปซื้อใบกระท่อมที่ติดตัวมา จึงรีบเร่งรถจักรยานยนต์หลบหนี โดยเจ้าหน้าที่ทหารใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่ตน และนายมูฮาหมัด จนได้รับบาดเจ็บ และรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ทหารได้ขอความร่วมมือชาวบ้านนำตน และนายมูฮาหมัด ส่งรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า หลังจากเกิดเหตุผ่านไปประมาณ 20 นาทีผู้สื่อข่าวแขนงต่างๆ ได้รับแจ้งผ่านทางวิทยุสื่อสาร สภ.ระแงะว่า มีเหตุเจ้าหน้าที่ทหารปะทะกับกลุ่มคนร้ายหลังจากนำกำลังเข้าตรวจค้นเป้า ที่บ้านกอแนะ ม.6 ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จึงได้ร่วมกันเดินทางไปทำข่าวเพื่อนำเสนอตามปกติ เมื่อถึงโรงพยาบาลระแงะ จึงได้เข้าไปถ่ายรูปและเก็บรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลภายในห้องฉุกเฉิน
ทันใดนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ทหาร และแพทย์ทหาร เดินทางมาดูอาการผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 คน เมื่อเห็นผู้สื่อข่าวกำลังบันทึกภาพคนเจ็บอยู่เจ้าหน้าที่ทหาร จึงได้พูดกับผู้สื่อข่าวว่าถ่ายรูปเสร็จแล้วขอเชิญไปพูดคุยนอกห้องฉุกเฉิน โดยทหารได้เดินเกาะไหล่ผู้สื่อข่าวออกมาพูดที่บริเวณลานส่งผู้ป่วยฉุกเฉินว่า ขอความร่วมมือให้ลบภาพถ่ายที่ได้บันทึกไว้ เกรงจะเสียรูปทางคดี และมีทหารอีกนายหนึ่ง ซึ่งมากลุ่มเดียวกันเดินตามหลัง และพูดสวนมาด้วยวาจาที่แข็งกร้าว นายขอความร่วมมือถ้าไม่ลบภาพถ่ายก็ให้ทำการยึดเมมโมรีการ์ด
