ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ลมกรรโชกแรงพัดกระหน่ำจังหวัดสงขลาอีกรอบ ส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูงล้มระเนระนาด 10 ต้น ไฟฟ้าดับทั้งเมืองสงขลากว่า 2 ชั่วโมง ชาวบ้านผวาหวั่นเกิดเหตุการณ์พายุถล่มอีกรอบ
วันนี้ (27 ม.ค.) ที่บริเวณถนนสามสิบเมตร ข้างโรงเรียนนวมินทราชูทิศทักษิณ ต.พะวง อ.เมือง จ.สงขลา เสาไฟฟ้าแรงสูง 10 ต้น ล้มฟาดหักโค่นระเนระนาดเต็มท้องถนน หลังจากเมื่อกลางดึก เวลา 00.05 น. มีลมกรรโชกอย่างรุนแรงตลอดทั้งคืนในพื้นที่ อ.เมือง จ.สงขลา และชายทะเลตลอดแนวชายฝั่งก็มีคลื่นลมแรง
สำหรับเสาไฟฟ้าแรงสูงทั้ง 10 ต้นที่ล้มในครั้งนี้ เกิดจากสาเหตุน็อตที่ล็อคเสาไฟฟ้าไม่แน่น เมื่อเจอลมกรรโชกแรงทำให้เสาไฟฟ้าโยก เหล็กน็อตที่ร้อยยึดตัวเสากับคามสเตย์ขาด ส่งผลให้เสาไฟฟ้าแรงสูงล้ม 1 ต้น และโยงเสาไฟฟ้าแรงสูงต้นอื่นๆล้มหักโค่นตามไปด้วยเป็นลูกโซ่ ทำให้ไฟฟ้าในตัวเมืองสงขลาดับทั้งเมืองเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง
โดยเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าได้ทำการตัดสายไฟฟ้าแรงสูงต้นที่ล้มออก และไปเชื่อมต่อกับเสาไฟฟ้าตัวที่ไม่ล้ม เพื่อให้ในตัวเมืองสงขลาได้มีไฟฟ้าใช้เป็นการชั่วคราวไปก่อน
ขณะที่ชาวบ้านที่มีบ้านเรือนบริเวณหมู่บ้านธนดี ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุเล่าว่า เสาไฟฟ้าแรงสูงที่ล้มต้นแรกก็คือต้นที่อยู่ตรงหัวมุมรั้วของโรงเรียนนวมินทราชูทิศทักษิณ เนื่องจากน็อตยึดโค่นเสาขาด หลังจากนั้นก็โยงไปยังเสาไฟฟ้าแรงสูงต้นอื่นล้มตามไปด้วย ในขณะที่เสาล้มเสียงดังสนั่น ชาวบ้านพากันตกใจนึกว่าเจอพายุอีกรอบ โชคดีช่วงนั้นเป็นช่วงกลางดึกไม่มีรถวิ่งผ่าน จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
อย่างไรก็ตามในวันนี้ ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคก็จะนำชุกช่าง ซึ่งเดินทางมาจาก จ.ยะลา มาทำการยกเสาไฟฟ้าที่ล้มออกและตั้งเสาไฟฟ้าใหม่ทั้ง 10 ตัน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2 - 3 วันนี้
ในขณะเดียวกันประชาชนชาวสงขลา ที่ประสบกับลมกรรโชกแรงเมื่อคืนนี้ ผวากลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์พายุเข้าเหมือนเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2553 ที่ผ่านมาจึงไม่มีใครกล้าหลับนอนเตรียมพร้อมเก็บข้าวของ เนื่องจากหากเกิดพายุเข้ามาจะได้รับสถานการณ์ได้ทันท่วงที