ตรัง - พบชายสัญชาติบังกลาเทศ-พม่า จำนวน 91 คน อาศัยบนเรือเสียลอยลำอยู่กลางทะเลอันดามัน เจ้าหน้าที่ต้องเข้าช่วยเหลือ เบื้องต้นพบว่าทั้งหมดกำลัหนีสงครามจะไปมาเลเซีย ไม่ใช่แรงงานต่างด้าวแต่อย่างใด
วันที่ 22 ม.ค. เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.วิชัย อินทวงศ์ ผกก.สภ.กันตัง จังหวัดตรัง รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุมชนตำบลบางสักว่า มีเหตุเรือบรรทุกชาวต่างชาติ สังกัดไม่ชัดเจน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเรือสำเภาแบบโบราณ ได้รับความเสียหายจอดอยู่กลางทะเลอันดามัน บริเวณน่านน้ำตรัง ใกล้ๆ กับหาดหยงหลิง อำเภอกันตัง จึงประสานไปยังสถานีตำรวจน้ำตรัง เพื่อนำกำลังไปทำการตรวจสอบ แล้วทำการช่วยเหลือชาวต่างชาติดังกล่าวมาขึ้นฝั่งที่เรือหาดยาว หมู่ที่ 6 บ้านเจ้าไหม ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง เพื่อลำเลียงตัวไปรับประทานอาหาร และพำนักเป็นการชั่วคราวที่โรงเรียนบ้านน้ำราบ ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง
หลังจากนั้น พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย นายวิสิทธิ์ ตั้งปอง นายอำเภอกันตัง เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองกันตัง จังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปตรวจสอบชาวต่างชาติดังกล่าว
เบื้องต้นพบว่าเป็นชาวสัญชาติผสมผสานกันระหว่างบังกลาเทศกับพม่า โดยเป็นผู้ชายทั้งหมด และนับถือศาสนาอิสลาม รวมจำนวน 91 คน ซึ่งได้อพยพหนีภัยสงครามและความลำบากมาจากประเทศของตนเอง เพื่อที่จะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ปรากฎว่าเมื่อมาถึงน่านน้ำของประเทศไทย ในบริเวณจังหวัดตรัง เรือเกิดประสบปัญหาเพลาชำรุดและต้องลอยลำอยู่กลางทะเลดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าชาวต่างชาติดังกล่าวน่าจะอพยพหนีมาจริง และไม่น่าจะเกี่ยวข้องต่อกระบวนการค้าแรงงานต่างด้าวเถื่อน หรือมีเป้าหมายที่จะลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย เนื่องจากมีลักษะของการเดินทางกันมาเองแบบตามมีตามเกิด แต่บังเอิญว่าเรือที่ใช้ในการอพยพมีสภาพค่อนข้างเก่ามาก ประกอบกับต้องเดินทางมาแล้วเป็นเวลาหลายวัน และยังต้องบรรทุกผู้คนเป็นจำนวนมากเกือบ 100 คนด้วย ทำให้เรือต้องมาประสบปัญหาเสียหายในที่สุด เจ้าหน้าที่จึงให้พำนักชั่วคราวที่โรงเรียนบ้านน้ำราบ ก่อนที่จะทำการสอบปากคำอย่างละเอียด แล้วดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
วันที่ 22 ม.ค. เมื่อเวลา 15.00 น. พ.ต.อ.วิชัย อินทวงศ์ ผกก.สภ.กันตัง จังหวัดตรัง รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจชุมชนตำบลบางสักว่า มีเหตุเรือบรรทุกชาวต่างชาติ สังกัดไม่ชัดเจน ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเรือสำเภาแบบโบราณ ได้รับความเสียหายจอดอยู่กลางทะเลอันดามัน บริเวณน่านน้ำตรัง ใกล้ๆ กับหาดหยงหลิง อำเภอกันตัง จึงประสานไปยังสถานีตำรวจน้ำตรัง เพื่อนำกำลังไปทำการตรวจสอบ แล้วทำการช่วยเหลือชาวต่างชาติดังกล่าวมาขึ้นฝั่งที่เรือหาดยาว หมู่ที่ 6 บ้านเจ้าไหม ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง เพื่อลำเลียงตัวไปรับประทานอาหาร และพำนักเป็นการชั่วคราวที่โรงเรียนบ้านน้ำราบ ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง
หลังจากนั้น พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พร้อมด้วย นายวิสิทธิ์ ตั้งปอง นายอำเภอกันตัง เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองกันตัง จังหวัดตรัง และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางไปตรวจสอบชาวต่างชาติดังกล่าว
เบื้องต้นพบว่าเป็นชาวสัญชาติผสมผสานกันระหว่างบังกลาเทศกับพม่า โดยเป็นผู้ชายทั้งหมด และนับถือศาสนาอิสลาม รวมจำนวน 91 คน ซึ่งได้อพยพหนีภัยสงครามและความลำบากมาจากประเทศของตนเอง เพื่อที่จะเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย แต่ปรากฎว่าเมื่อมาถึงน่านน้ำของประเทศไทย ในบริเวณจังหวัดตรัง เรือเกิดประสบปัญหาเพลาชำรุดและต้องลอยลำอยู่กลางทะเลดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่เชื่อว่าชาวต่างชาติดังกล่าวน่าจะอพยพหนีมาจริง และไม่น่าจะเกี่ยวข้องต่อกระบวนการค้าแรงงานต่างด้าวเถื่อน หรือมีเป้าหมายที่จะลักลอบเข้ามาทำงานในประเทศไทย เนื่องจากมีลักษะของการเดินทางกันมาเองแบบตามมีตามเกิด แต่บังเอิญว่าเรือที่ใช้ในการอพยพมีสภาพค่อนข้างเก่ามาก ประกอบกับต้องเดินทางมาแล้วเป็นเวลาหลายวัน และยังต้องบรรทุกผู้คนเป็นจำนวนมากเกือบ 100 คนด้วย ทำให้เรือต้องมาประสบปัญหาเสียหายในที่สุด เจ้าหน้าที่จึงให้พำนักชั่วคราวที่โรงเรียนบ้านน้ำราบ ก่อนที่จะทำการสอบปากคำอย่างละเอียด แล้วดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป
