ตรัง - เกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนกับรถแท็กซี่สายกระบี่-ตรัง บริเวณสามแยกกะลาเส ต.กะลาเส อ.สิเกา ส่งผลให้ 3 พี่น้องเสียชีวิตคาที่ 2 คน ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดมาจากฝ่ายใด
วันที่ 22 ม.ค. เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ต.อ.ศุภรักษ์ พงษ์กาญจนะ ร้อยเวรสอบสวน สภ.สิเกา จ.ตรัง ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกันที่บริเวณสามแยกกะลาเส พื้นที่หมู่ที่ 2 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง จึงรีบนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลสิเกา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณจุดทางที่จะแยกไปยังบ้านทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ซึ่งเป็นรถแท็กซี่สายกระบี่-ตรัง หมายเลขทะเบียน กก-4319 ตรัง อยู่ในสภาพพลิกคว่ำหงายตะแคงอยู่ริมฟุตบาท ใกล้กันพบศพคนเสียชีวิตอยู่บนถนน 2 คน
ทราบชื่อคือ เด็กหญิงเกษศิรินทร์ สุขเสน อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ที่ 2 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง และเด็กชายคณะวิทย์ สุขเสน อายุ 10 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133/1 หมู่ที่ 2 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพศพเลือดอาบเต็มร่าง ศีรษะแตกและแขนขาหัก นอกจากนั้น ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน คือ เด็กชายทีฆะทัศน์ สังข์วิเศษ อายุ 12 ปี ยังไม่ทราบบ้านเลขที่ มีสภาพขาขวาหัก และมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสิเกา และถูกนำตัวส่งมารักษาต่อที่โรงพยาบาลตรัง ซึ่งเด็กทั้ง 3 คน เป็นญาติพี่น้อง
ขณะเดียวกันบนถนนสายดังกล่าวยังพบรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นของของเด็กทั้ง 3 คน ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ ล้มอยู่ในสภาพพังยับเยิน โดยมีชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปทั่ว และป้ายทะเบียนรถก็หลุดหาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถระบุได้ในเบื้องต้นว่ารถจักรยานยนต์ที่เด็กทั้ง 3 คน ใช้เป็นยานพาหนะนั้น มียี่ห้อ และรุ่นใด ระหว่างยี่ห้อฮอนด้า กับยี่ห้อซูซูกิ
พร้อมกันนั้น ยังพบร่องรอยที่รถแท็กซี่ ลากรถจักรยานยนต์ไปตามถนน ซึ่งห่างจากจุดที่รถทั้ง 2 คันชนกันประมาณ 20 เมตร จนทำให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บดังกล่าว ส่วนคนขับรถแท็กซี่ ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสิเกา ทราบชื่อต่อมาคือนายครรชิต ดอละ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ถ.นวรัตน์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าคนขับรถแท็กซี่คงกำลังขับมุ่งหน้า เพื่อที่จะเข้าไปส่งผู้โดยสารที่ตัวเมืองตรัง แต่มาประสบอุบัติเหตุชนเข้ากับรถจักรยานยนต์เสียก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป
วันที่ 22 ม.ค. เมื่อเวลา 09.30 น. ร.ต.อ.ศุภรักษ์ พงษ์กาญจนะ ร้อยเวรสอบสวน สภ.สิเกา จ.ตรัง ได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถชนกันที่บริเวณสามแยกกะลาเส พื้นที่หมู่ที่ 2 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง จึงรีบนำกำลังเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลสิเกา และเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ บริเวณจุดทางที่จะแยกไปยังบ้านทรายขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่ พบรถเก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ซึ่งเป็นรถแท็กซี่สายกระบี่-ตรัง หมายเลขทะเบียน กก-4319 ตรัง อยู่ในสภาพพลิกคว่ำหงายตะแคงอยู่ริมฟุตบาท ใกล้กันพบศพคนเสียชีวิตอยู่บนถนน 2 คน
ทราบชื่อคือ เด็กหญิงเกษศิรินทร์ สุขเสน อายุ 12 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ที่ 2 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง และเด็กชายคณะวิทย์ สุขเสน อายุ 10 ปี อยู่บ้านเลขที่ 133/1 หมู่ที่ 2 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง นอนเสียชีวิตอยู่ในสภาพศพเลือดอาบเต็มร่าง ศีรษะแตกและแขนขาหัก นอกจากนั้น ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 คน คือ เด็กชายทีฆะทัศน์ สังข์วิเศษ อายุ 12 ปี ยังไม่ทราบบ้านเลขที่ มีสภาพขาขวาหัก และมีบาดแผลตามร่างกายหลายแห่ง ถูกนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลสิเกา และถูกนำตัวส่งมารักษาต่อที่โรงพยาบาลตรัง ซึ่งเด็กทั้ง 3 คน เป็นญาติพี่น้อง
ขณะเดียวกันบนถนนสายดังกล่าวยังพบรถจักรยานยนต์ ซึ่งเป็นของของเด็กทั้ง 3 คน ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ ล้มอยู่ในสภาพพังยับเยิน โดยมีชิ้นส่วนกระจัดกระจายไปทั่ว และป้ายทะเบียนรถก็หลุดหาย จนเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถระบุได้ในเบื้องต้นว่ารถจักรยานยนต์ที่เด็กทั้ง 3 คน ใช้เป็นยานพาหนะนั้น มียี่ห้อ และรุ่นใด ระหว่างยี่ห้อฮอนด้า กับยี่ห้อซูซูกิ
พร้อมกันนั้น ยังพบร่องรอยที่รถแท็กซี่ ลากรถจักรยานยนต์ไปตามถนน ซึ่งห่างจากจุดที่รถทั้ง 2 คันชนกันประมาณ 20 เมตร จนทำให้มีทั้งผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บดังกล่าว ส่วนคนขับรถแท็กซี่ ก็ได้รับบาดเจ็บเช่นเดียวกัน และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลสิเกา ทราบชื่อต่อมาคือนายครรชิต ดอละ อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 ถ.นวรัตน์ ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.กระบี่ สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าคนขับรถแท็กซี่คงกำลังขับมุ่งหน้า เพื่อที่จะเข้าไปส่งผู้โดยสารที่ตัวเมืองตรัง แต่มาประสบอุบัติเหตุชนเข้ากับรถจักรยานยนต์เสียก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องเพื่อหาสาเหตุต่อไป