ยะลา - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้รองผู้ว่าฯ ยะลา เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญดินพระราชทานวางบนหลุมฝังศพ “อาสาสมัครทหารพราน สุทธิพร กันสุริ” เหยื่อโจรใต้ ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มบนถนนสายยะลา-รามัน ขณะออกหาข่าวกับเพื่อนทหารพราน
วันนี้ (20 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.30 น.ที่บริเวณกุโบร์ (สุสาน) บ้านจันเรียน หมู่ที่ 2 ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นผู้แทนพระองค์อัญเชิญดินพระราชทานวางบนหลุมฝังศพของอาสาสมัครทหารพราน สุทธิพร กันสุริ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 4 ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง ตำแหน่งผู้ช่วยพลยิงเครื่องยิงจรวด กองร้อยทหารพรานที่ 4113 กรมทหารพรานที่ 41 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มบนถนนสายยะลา-รามัน บริเวณหมู่ที่ 2 บ้านบือแน ต.บุดี อ.เมือง จ.ยะลา ขณะออกหาข่าวกับเพื่อนทหารพราน เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 8 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยมีข้าราชตำรวจ ทหาร หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่ เข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก และนายณัฐพงศ์ ศิริชนะ รองผู้วาราชการจังหวัดยะลา ได้มอบเหรียญกล้าหาญบางระจัน และธงชาติให้แก่บิดา มารดา และนางฮาลีเมาะ กันสุริ อายุ 26 ปี ภรรยาของอาสาสมัครทหารพราน สุทธิพร กันสุริ เพื่อเป็นเกียรติประวัติในการทำหน้าที่รับใช้ชาติอีกด้ว
สำหรับ อาสาสมัครทหารพราน สุทธิพร กันสุริ เกิดเมื่อวันที่ 26 พ.ย.2525 อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ที่ 4 ต.บ้านพราน อ.แสวงหา จ.อ่างทอง เป็นบุตรคนที่ 1 ในจำนวน 2 คน ของนายนายสีทน กันสุริ และนางพยอม อินบัว บิดา-มารดา และได้สมรสกับนางนางฮาลีเมาะ กันสุริ ซึ่งเป็นคนในพื้นที่บ้านจันเรียน หมู่ที่ 2 ต.ลิดล อ.เมือง จ.ยะลา ไม่มีบุตร อาสาสมัครทหารพรานสุทธิพรสมัครเป็นอาสาสมัครทหารพราน เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.51 ตำแหน่งผู้ช่วยพลยิงเครื่องยิงจรวด กองร้อยทหารพรานที่ 4113 กรมทหารพรานที่ 41 ซึ่งตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติหน้าที่ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง อดทน กล้าหาญ ซื่อสัตย์ สุจริต มีความเสียสละ และทุ่มเทอย่างเต็มกำลังความสามารถ จนเป็นที่รักใคร่ของผู้บังคับบัญชา และเพื่อนร่วมงานเสมอมา
นางฮาลีเมาะ กันสุริ ภรรยาของอาสาสมัครทหารพราน สุทธิพร กันสุริ กล่าวว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นอย่างยิ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานดิน รู้สึกปลื้มปีติอย่างหาที่สุดมิได้แก่ครอบครัวและวงศ์ตระกูลของตนเอง ทำให้มีกำลังใจ ซึ่งตนเองและญาติพี่น้องจะประพฤติตนเป็นคนดี พร้อมทั้งจะช่วยเหลือสังคมต่อไป