ชุมพร - ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จังหวัดชุมพร เร่งหาสาเหตุพบปลาโลมา เต่า สัตว์ทะเลหายากตายเกยหาดแล้วเกือบ 30 ตัว
นางนิภาวรรณ บุศราวิช ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลางจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ในช่วงลมตะวันออกเฉียงเหนือ หรือลมว่าวของทุกปี จะพบซากสัตว์ทะเลหาก ตายขึ้นมาเกยหาดทุกปี โดยเฉพาะช่วงเดือน พ.ย.-ม.ค. เกือบ 3 เดือนมีซากสัตว์ทะเลหายากตายมาเกยหาดแล้ว 10 ตัว แยกเป็นโลมาหัวบาตร โลมาหลังเรียบ โลมาหลังโหนก 6 ตัว เต่าตนุ 4 ตัว ซากที่พบ ส่วนหนึ่งจะอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย ซึ่งยากต่อการการพิสูจน์หาสาเหตุการตาย
ทั้งนี้ จากข้อมูลเมื่อปีที่แล้วซึ่งมีสัตว์ทะเลประเภทเต่าและโลมาขึ้นมาเกยหาดเกือบ 20 ตัว ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์พอจะสรุปสาเหตุของการตายได้ว่า มาจากการติดอวนของชาวประมง และเสียชีวิตจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
นอกจากนี้ยังมีซากสัตว์ทะเลหายากส่วนหนึ่งที่ซากเน่าเปื่อยและไม่มีร่องรอยการติดเครื่องมือการประมง ซึ่งยังสรุปสาเหตุการตายไม่ได้ และทางศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อหาสาเหตุ และหาแนวทางแก้ไข
ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร กล่าวอีกว่า ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร รับผิดชอบตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี หากชาวประมง หรือพี่น้องประชาชนพบเห็นซากสัตว์ทะเลหายากขึ้นมาเกยหาด ขอให้แจ้งมายังศูนย์ฯ ได้ที่หมายเลข 08-6961-17941 จะได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ เพราะข้อมูลการตายสัตว์ทะเลเหล่านั้นเป็นสิ่งสำคัญในการอนุรักษ์ ที่จะทราบสาเหตุการตายที่แท้จริง
ขณะที่ นายชัยยะ ดาวตุ่น เจ้าหน้าที่ประมง เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 17-18 ม.ค.54 สองวันที่ผ่านมา พบซากสัตว์ทะเลหายากขึ้นมาเกยหาดถึง 3 ตัว โดยวันที่ 17 ม.ค.54 ได้รับแจ้งจาก นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่า พนักงานเก็บขยะบริเวณหาดทุ่งวัวแล่น พบซากโลมาขึ้นมาเกยหาดบริเวณหน้าหาด หมู่ที่ 8 ต.สะพลี เมื่อไปตรวจสอบ พบ ซาก โลมาหลังโหนก ยาว 2.30 เมตร หนัก 4.65 กก. อายุประมาณ 6-10 ปี
ในวันเดียวกันยังได้รับแจ้งจากชาวประมงบริเวณหาดทรายรี ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร ว่า พบซากเต่าตนุ อายุประมาณ 5-8 ปี หนัก 25.5 กก. กระดองกว้าง 58 ซม. เพศเมีย รวมทั้งซากปลาโลมาที่พบบริเวณ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ด้วย ทั้งซากเต่าและโลมา ทั้ง 3 ตัวอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย คาดว่าน่าจะตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 5-7 วัน หลังตรวจสอบได้ทำการเก็บตัวอย่างเนื้อเพื่อนำไปพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการอีกครั้งว่าสาเหตุการตายของสัตว์ทั้งสองมาจากสาเหตุใด
นางนิภาวรรณ บุศราวิช ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลางจังหวัดชุมพร เปิดเผยว่า ในช่วงลมตะวันออกเฉียงเหนือ หรือลมว่าวของทุกปี จะพบซากสัตว์ทะเลหาก ตายขึ้นมาเกยหาดทุกปี โดยเฉพาะช่วงเดือน พ.ย.-ม.ค. เกือบ 3 เดือนมีซากสัตว์ทะเลหายากตายมาเกยหาดแล้ว 10 ตัว แยกเป็นโลมาหัวบาตร โลมาหลังเรียบ โลมาหลังโหนก 6 ตัว เต่าตนุ 4 ตัว ซากที่พบ ส่วนหนึ่งจะอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย ซึ่งยากต่อการการพิสูจน์หาสาเหตุการตาย
ทั้งนี้ จากข้อมูลเมื่อปีที่แล้วซึ่งมีสัตว์ทะเลประเภทเต่าและโลมาขึ้นมาเกยหาดเกือบ 20 ตัว ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์พอจะสรุปสาเหตุของการตายได้ว่า มาจากการติดอวนของชาวประมง และเสียชีวิตจากการติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
นอกจากนี้ยังมีซากสัตว์ทะเลหายากส่วนหนึ่งที่ซากเน่าเปื่อยและไม่มีร่องรอยการติดเครื่องมือการประมง ซึ่งยังสรุปสาเหตุการตายไม่ได้ และทางศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลเพื่อหาสาเหตุ และหาแนวทางแก้ไข
ผอ.ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร กล่าวอีกว่า ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนกลาง จ.ชุมพร รับผิดชอบตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร และ จ.สุราษฎร์ธานี หากชาวประมง หรือพี่น้องประชาชนพบเห็นซากสัตว์ทะเลหายากขึ้นมาเกยหาด ขอให้แจ้งมายังศูนย์ฯ ได้ที่หมายเลข 08-6961-17941 จะได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ เพราะข้อมูลการตายสัตว์ทะเลเหล่านั้นเป็นสิ่งสำคัญในการอนุรักษ์ ที่จะทราบสาเหตุการตายที่แท้จริง
ขณะที่ นายชัยยะ ดาวตุ่น เจ้าหน้าที่ประมง เปิดเผยว่าระหว่างวันที่ 17-18 ม.ค.54 สองวันที่ผ่านมา พบซากสัตว์ทะเลหายากขึ้นมาเกยหาดถึง 3 ตัว โดยวันที่ 17 ม.ค.54 ได้รับแจ้งจาก นายวัชรินทร์ สุวพิศ ปลัด อบต.สะพลี อ.ปะทิว จ.ชุมพร ว่า พนักงานเก็บขยะบริเวณหาดทุ่งวัวแล่น พบซากโลมาขึ้นมาเกยหาดบริเวณหน้าหาด หมู่ที่ 8 ต.สะพลี เมื่อไปตรวจสอบ พบ ซาก โลมาหลังโหนก ยาว 2.30 เมตร หนัก 4.65 กก. อายุประมาณ 6-10 ปี
ในวันเดียวกันยังได้รับแจ้งจากชาวประมงบริเวณหาดทรายรี ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร ว่า พบซากเต่าตนุ อายุประมาณ 5-8 ปี หนัก 25.5 กก. กระดองกว้าง 58 ซม. เพศเมีย รวมทั้งซากปลาโลมาที่พบบริเวณ อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ด้วย ทั้งซากเต่าและโลมา ทั้ง 3 ตัวอยู่ในสภาพเน่าเปื่อย คาดว่าน่าจะตายมาแล้วไม่น้อยกว่า 5-7 วัน หลังตรวจสอบได้ทำการเก็บตัวอย่างเนื้อเพื่อนำไปพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการอีกครั้งว่าสาเหตุการตายของสัตว์ทั้งสองมาจากสาเหตุใด
