ตำรวจภูเก็ตระบุกรณีสื่ออังกฤษลงข่าวนักท่องเที่ยวถูกข่มขืนเป็นคนละเรื่อง เพราะในชั้นสอบสวนผู้เสียหายไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่แล้ว
วันนี้ (15 ม.ค.) พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงกรณีสื่อของอังกฤษได้นำเสนอข่าวนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษถูกรุมโทรมที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และและขู่กรรโชกทรัพย์ ว่า หลังจากทราบเรื่องตนได้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แล้ว และให้รายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งในเบื้องต้น พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้าแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะทู้จริงเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2553 และในการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เชิญกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำจังหวัดภูเก็ตมาร่วมเป็นพยานด้วย โดยในขั้นตอนของการสอบสวนนั้นผู้เสียหายไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเดินทางกลับประเทศไปในที่สุด
พล.ต.ต.พิกัด กล่าวต่อไปว่า ข่าวที่ออกมาในสื่อของอังกฤษเป็นลักษณะที่สร้างความเสื่อมเสียต่อประเทศไทย และจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าข้อมูลที่ปรากฏปรากฏว่าเป็นคนละเรื่องกัน และอยากตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ในการเข้าแจ้งความทำไมผู้เสียหายจึงไม่ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้ดำเนินการกับผู้ที่ก่อเหตุ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอยืนยันว่ากรณีของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความช่วยเหลือและดูแลเป็นอย่างดีและให้การช่วยเหลือและดูแลเป็นอย่างเต็มที่แล้ว
ขณะที่นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ที่ผ่านมาทางการท่องเที่ยวยังไม่ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งจะตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง หลังจากนั้นจะได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไปยัง ททท.สำนักงานลอนดอนต่อไป
วันนี้ (15 ม.ค.) พล.ต.ต.พิกัด ตันติพงศ์ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต กล่าวถึงกรณีสื่อของอังกฤษได้นำเสนอข่าวนักท่องเที่ยวสาวชาวอังกฤษถูกรุมโทรมที่หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต และและขู่กรรโชกทรัพย์ ว่า หลังจากทราบเรื่องตนได้ตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แล้ว และให้รายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งในเบื้องต้น พบว่ามีนักท่องเที่ยวเข้าแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรกะทู้จริงเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2553 และในการสอบสวนทางเจ้าหน้าที่ก็ได้เชิญกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำจังหวัดภูเก็ตมาร่วมเป็นพยานด้วย โดยในขั้นตอนของการสอบสวนนั้นผู้เสียหายไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเดินทางกลับประเทศไปในที่สุด
พล.ต.ต.พิกัด กล่าวต่อไปว่า ข่าวที่ออกมาในสื่อของอังกฤษเป็นลักษณะที่สร้างความเสื่อมเสียต่อประเทศไทย และจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าข้อมูลที่ปรากฏปรากฏว่าเป็นคนละเรื่องกัน และอยากตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ในการเข้าแจ้งความทำไมผู้เสียหายจึงไม่ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจะได้ดำเนินการกับผู้ที่ก่อเหตุ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจขอยืนยันว่ากรณีของนักท่องเที่ยวรายดังกล่าวทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ความช่วยเหลือและดูแลเป็นอย่างดีและให้การช่วยเหลือและดูแลเป็นอย่างเต็มที่แล้ว
ขณะที่นางบังอรรัตน์ ชินะประยูร ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ที่ผ่านมาทางการท่องเที่ยวยังไม่ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งจะตรวจสอบข้อมูลข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง หลังจากนั้นจะได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นไปยัง ททท.สำนักงานลอนดอนต่อไป