นครศรีธรรมราช - “แดงสยาม” เย้ยแกนนำ นปช.นัดชุมนุม 9 ม.ค.นี้ก็เพียงแค่ต้องการแย่งซีนจากราชประสงค์ แถมยังวิเคราะห์ไปไกลถึงขั้นระบุว่าสงครามกลางเมืองกำลังเริ่มแล้ว เพื่อเร่งปฏิวัติสู่การเปลี่ยนผ่าน
วันนี้ (6 ม.ค.) นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยามกล่าวถึงการเตรียมชุมนุมของกลุ่ม นปช.อีกครั้งในวันที่ 9 ม.ค.นี้ว่า ในส่วนของตนนั้นไม่ได้ไปร่วม แต่เข้าใจว่าในวันที่ 19 ม.ค.นั้นจะไปร่วมด้วย ที่บอกว่าจะไปร่วมนั้นเพราะกระแสของราชประสงค์ ราชดำเนิน ที่ถูกจุดติดขึ้นมานั้นเป็นเพราะนายสมบัติ บุญงามอนงค์ และทีมงาน ดังนั้น การไปจัดชุมนุมที่นั้นไม่ควรไปแย่งซีนเขา ไปตีกินว่าเป็นผู้นำ เมื่อจุดกระแสติดแล้วมาทีหลังไม่ควรสร้างว่าตัวเองเป็นแกนนำ ตนไม่ได้ว่าใครแต่หมายถึงตัวของเอง จึงใช้คำว่าเข้าร่วม หากจะไปนำนั้นไม่เหมาะ ใครที่ไปสร้างไปทำไว้เราต้องมีมารยาทไม่ควรไปข้ามหน้าข้ามตาต้องให้เกียรติ ตนนั้นไม่ทำอย่างแน่นอน
“การพยายามปรับโครงสร้างใหม่ของ นปช.ลงลึกไปถึงระดับตำบลนั้นเป็นแนวทางของการปฏิรูป ส่วนกลุ่มแดงสยามนั้นเราชัดเจนว่าเราต้องการปฏิวัติเพื่อทำการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ หากไปสร้างเครือข่ายที่มีแต่กำลังคนแต่ไร้สมอง ข้างในกลวงก็จบทำอะไรไม่ได้
ดังนั้น ยุทธศาสตร์ของแดงสยามจึงต้องตกผลึกและปลูกฝังทางความคิดอ่าน วันนี้อาจารย์ธิดาต้องการประกันตัวช่วยหมอเหวง และแกนนำทั้ง 7 จึงมีลักษณะของการลับลวงพราง ยุทธศาสตร์เดิมที่ว่าเดินสองขา ทำ 2 แขน เก็บใส่ลิ้นชักไปแล้ว ผมเชื่อว่าจะสามารถประกันตัวได้หากมีผู้สามารถมอบนโยบายไปให้ผู้ที่เกี่ยวข้องประกันตัว”
นายสุรชัยยังกล่าวต่อว่า ในส่วนของแดงสยามนั้นภาระกิจที่ต้องเดินหน้าต่อไป คือ การปฏิวัติเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบประชาธิปไตยเสรีนิยมอย่างแท้จริง สะสมยุทธศาสตร์ กำลังคนเพื่อรอคอยเวลาการเปลี่ยนแปลง โดยจะต้องอยู่ในกรอบของการเปลี่ยนแปลงโดยไม่รุนแรง หรือรุนแรงน้อยที่สุด
“วันนี้สงครามกลางเมืองได้เริ่มขึ้นแล้วจากยุทธศาสตร์ 3 อย่าง คือ สภา เสื้อแดง และใต้ดิน ซึ่งไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมีแต่ความรุนแรง ดังนั้นเวลานี้สังคมไทยต้องเปลี่ยนแปลงด้วยการปฏิวัติเท่านั้น”
วันนี้ (6 ม.ค.) นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ แกนนำกลุ่มแดงสยามกล่าวถึงการเตรียมชุมนุมของกลุ่ม นปช.อีกครั้งในวันที่ 9 ม.ค.นี้ว่า ในส่วนของตนนั้นไม่ได้ไปร่วม แต่เข้าใจว่าในวันที่ 19 ม.ค.นั้นจะไปร่วมด้วย ที่บอกว่าจะไปร่วมนั้นเพราะกระแสของราชประสงค์ ราชดำเนิน ที่ถูกจุดติดขึ้นมานั้นเป็นเพราะนายสมบัติ บุญงามอนงค์ และทีมงาน ดังนั้น การไปจัดชุมนุมที่นั้นไม่ควรไปแย่งซีนเขา ไปตีกินว่าเป็นผู้นำ เมื่อจุดกระแสติดแล้วมาทีหลังไม่ควรสร้างว่าตัวเองเป็นแกนนำ ตนไม่ได้ว่าใครแต่หมายถึงตัวของเอง จึงใช้คำว่าเข้าร่วม หากจะไปนำนั้นไม่เหมาะ ใครที่ไปสร้างไปทำไว้เราต้องมีมารยาทไม่ควรไปข้ามหน้าข้ามตาต้องให้เกียรติ ตนนั้นไม่ทำอย่างแน่นอน
“การพยายามปรับโครงสร้างใหม่ของ นปช.ลงลึกไปถึงระดับตำบลนั้นเป็นแนวทางของการปฏิรูป ส่วนกลุ่มแดงสยามนั้นเราชัดเจนว่าเราต้องการปฏิวัติเพื่อทำการเปลี่ยนผ่านอย่างสันติ หากไปสร้างเครือข่ายที่มีแต่กำลังคนแต่ไร้สมอง ข้างในกลวงก็จบทำอะไรไม่ได้
ดังนั้น ยุทธศาสตร์ของแดงสยามจึงต้องตกผลึกและปลูกฝังทางความคิดอ่าน วันนี้อาจารย์ธิดาต้องการประกันตัวช่วยหมอเหวง และแกนนำทั้ง 7 จึงมีลักษณะของการลับลวงพราง ยุทธศาสตร์เดิมที่ว่าเดินสองขา ทำ 2 แขน เก็บใส่ลิ้นชักไปแล้ว ผมเชื่อว่าจะสามารถประกันตัวได้หากมีผู้สามารถมอบนโยบายไปให้ผู้ที่เกี่ยวข้องประกันตัว”
นายสุรชัยยังกล่าวต่อว่า ในส่วนของแดงสยามนั้นภาระกิจที่ต้องเดินหน้าต่อไป คือ การปฏิวัติเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบประชาธิปไตยเสรีนิยมอย่างแท้จริง สะสมยุทธศาสตร์ กำลังคนเพื่อรอคอยเวลาการเปลี่ยนแปลง โดยจะต้องอยู่ในกรอบของการเปลี่ยนแปลงโดยไม่รุนแรง หรือรุนแรงน้อยที่สุด
“วันนี้สงครามกลางเมืองได้เริ่มขึ้นแล้วจากยุทธศาสตร์ 3 อย่าง คือ สภา เสื้อแดง และใต้ดิน ซึ่งไม่ได้มีอะไรดีขึ้นมีแต่ความรุนแรง ดังนั้นเวลานี้สังคมไทยต้องเปลี่ยนแปลงด้วยการปฏิวัติเท่านั้น”