ยะลา - คดีกระสุนปริศนาถูกเด็กหญิงวัย 6 ขวบเจาะเข้าที่ศีรษะจนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสในช่วงการเฉลิมฉลองขึ้นปีใหม่ที่ผ่านมา ผบก.ยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ติดตามมือยิงปืนขึ้นฟ้าโดยด่วนแล้ว เผย หากเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการอย่างเด็ดขาด
วันนี้ (5 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เด็กหญิงนิอิฟตีนา กือจิ วัย 6 ขวบ ถูกกระสุนปืนปริศนา ขนาด 9 มม.เจาะเข้าที่บริเวณศีรษะ จำนวน 1 นัด จนได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ขณะที่เด็กหญิงกำลังนอนหลับกับพ่อ-แม่ ภายในบ้านเลขที่ 22 ซ.ชีวินอุทิศ ถ.สวนขวัญเมือง ในหมู่บ้านพิมาน 1 อ.เมือง จ.ยะลา ซึ่งเหตุเกิดเมื่อเกลางดึกของของวันที่ 31 ธ.ค.53 ที่ผ่านมา
โดยขณะนี้แพทย์ได้ทำการผ่าตัดบาดแผลที่บริเวณศีรษะเรียบร้อยจนอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว เด็กรู้สึกตัวดี ร่างกายสามารถตอบสนองได้เป็นอย่างดี แต่ยังคงต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่ห้องพิเศษ ชั้น 3 อาคารศัลยกรรมประสาท เพื่อเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิด เพราะแพทย์เกรงว่าบาดแผลจะติดเชื้อ
ด้าน พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุตนเองได้กำชับทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวน และชุดสายตรวจทำการสืบสวนหาข่าว ค้นหาบุคคลที่อาจจะมีความคึกคะนองขึ้นหรืออาจจะฉลองปีใหม่ ในวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา ช่วงที่มีการเคาท์ดาวน์ ตนเองได้นำกลังออกตรวจด้วยตนเอง ก็สามารถจับกุมผู้ที่ใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าได้ จำนวน 3 ราย และผู้ที่ยิงก็ได้อ้างเป็นการยิงเพื่อเฉลิมฉลองในวันขึ้นปีใหม่
สำหรับกรณีของเด็กหญิงนิอิฟตีนา กือจิ วัย 6 ขวบ ที่ถูกกระสุนเข้าที่บริเวณศีรษะ จนได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้น ทางแพทย์ก็พบว่าเป็นหัวกระสุนขนาด 9 ม.ม.ทางพนักงานสอบสวนก็ได้ส่งหัวกระสุนไปทำการตรวจพิสูจน์ มีการรวบรวมพยานหลักฐาน หลังจากนั้นสามารถที่จะสืบทราบ หรือไปตรวจค้นพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม.หากมีการตรวจพบเกลียวลำกล้อง ในภายหลังจะมีการดำเนินคดีกับเจ้าของปืน
อีกส่วนหนึ่งตนได้ประสานกับทางจังหวัดยะลา และทางส่วนราชการต่างๆ พร้อมทั้งภาคประชาชน ที่มีการประชาสัมพันธ์กับประชาชน ว่า การที่คึกคะนอง หรือสนุกสนานกันในช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือในเทศกาลต่างๆ โดยใช้อาวุธปืนขึ้นมายิง มันก็จะมีผลเสียหายเกิดขึ้น หากกระสุนปืนไปตกกับผู้ใหญ่ ก็ไม่ค่อยน่าเป็นห่วงเท่าไร
แต่ในครั้งนี้กระสุนปืนไปตกกับเด็ก ซึ่งยังเป็นเด็กเล็ก เป็นลูก เป็นหลาน และเด็กเองก็ไม่ได้ไปซุกซนอะไร ครั้งนี้ยังมีความโชคดีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส ไม่ถึงกับถึงขั้นเสียชีวิต ไม่เหมือนกับกรณีที่จังหวัดราชบุรี ที่เด็กต้องมาเสียชีวิต ซึ่งตนเองคิดว่าบุคคล หรือ ผู้ที่ปฏิบัติอย่างนั้น ก็ต้องสำนึกและเสียใจว่า ถ้าหากเกิดกับลูก หรือญาติพี่น้องของตนเองแล้ว ตนเองจะมีความรู้สึกอย่างไร ซึ่งตนเองก็ได้ประสาน พร้อมทั้งแจ้งในส่วนต่างๆ ทางผู้บังคับบัญชาทางฝ่ายทหาร ฝ่ายปกครอง รวมทั้งชาวบ้านว่าหากมีงานรื่นเริงสนุกสนานในครั้งต่อไป ต้องมีความระมัดระวังในส่วนนี้ให้มาก
โดยในพื้นที่จังหวัดยะลาเอง นอกจากกลุ่มคนร้ายที่มีอาวุธปืนที่มาก่อเหตุร้ายต่างๆ เจ้าหน้าที่หรือประชาชนต่างก็มีอาวุธปืนที่จะป้องกันชีวิต และทรัพย์สินของตัวเอง ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ใช่ว่านำไปก่อเหตุ เพราะความคึกคะนองผลกระทบจะเป็นเหตุการณ์ที่น่าเสียดายตามมา ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจตนเองได้กำชับผู้ใต้บังคับบัญชาของตำรวจ ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงปืนในเมือง ในที่สาธารณะด้วยความคึกคะนอง โทษของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะได้รับก็คือถูกไล่ออกจากราชการสถานเดียว
“นอกจากจะถูกไล่ออกแล้วก็จะต้องถูกดำเนินคดี หากกระสุนปืนไปพลาดถูกผู้ใดก็ต้องได้รับโทษเพิ่มขึ้น ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องมีการกำชับ และก็แจ้งให้ส่วนราชการอื่นๆ ได้ทราบโดยทั่วกัน”
