ตรัง - ตำรวจห้วยยอดบุกรวบผัวตีนโหด ชาวตำบลเขากอบ หลังผลผ่าพิสูจน์ระบุชัดว่ากระทืบภรรยาจนไส้แตกเสียชีวิต และมีชาวบ้านร้องไปยังมูลนิธิปวีณาให้ดำเนินการอายัติศพ
วันนี้ (27 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญหมอ ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด จังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.ต.ท.อิสราพงศ์ จินา รองผู้กำกับการ ฝ่ายสืบสวนสอบสวน และ ร.ต.ท.วิษณุ จันทร์พล พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยยอด เจ้าของคดี ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวนหนึ่ง เดินทางไปจับกุมตัว นายเมธี คงยุทธิ์ อายุ 49 ปี ที่บ้านเลขที่ 60/1 หมู่ที่ 1 ตำบลเขากอบ อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง โดยแจ้งข้อหาว่าฆ่าภรรยาของตนเองจนถึงแก่ความตาย และเหตุเกิดภายในบ้านของผู้ต้องหา เมื่อเช้าวันที่ 9 มีนาคม 2553 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ สืบเนื่องมาจากกรณีที่ นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา ได้ประสานมายัง นายไมตรี อินทุสุต ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ให้ตรวจสอบสาเหตุการตายของ นางพวงทิพย์ ไพเราะ อายุ 48 ปี ซึ่งเดิมเป็นชาวอำเภอสีดา จังหวัดนครราชสีมา หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ โดยสงสัยว่า นางพวงทิพย์ จะเสียชีวิตมาจากการถูกทำร้ายร่างกาย และอาจจะเกี่ยวพันกับนายเมธี สามีของผู้ตาย จึงอยากให้มีการนำศพส่งไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่ชัดเจนอีกครั้ง
ต่อมาเมื่อเย็นวันที่ 12 มีนาคมที่ผ่านมา นายวิสูตร จันทร์ศิริกาญจน์ นายอำเภอห้วยยอด พร้อมด้วย พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพย์พงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัตรัง และ พ.ต.อ.ปัญจพล ชำนาญหมอ ผู้กำกับการ สภ.ห้วยยอด จึงได้นำกำลังเดินทางไปที่วัดเขากอบ อำเภอห้วยยอด เพื่อขออายัดศพ นางพวงทิพย์ ก่อนที่จะมีพิธีฌาปณกิจศพเพียงแค่ 1 วัน แล้วส่งไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์ศพ
ทั้งนี้ ล่าสุดโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ได้แจ้งผลมาให้ สภ.ห้วยยอด รับทราบแล้ว โดยระบุถึงสาเหตุการตายของนางพวงทิพย์อย่างชัดเจนว่า เกิดจากถูกคนร้ายกระทืบตรงที่บริเวณช่องท้องอย่างแรงจนลำไส้แตก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำหมายจับศาลจังหวัดตรัง ไปทำการจับกุมตัวนายเมธีสามีของนางพวงทิพย์ ซึ่งเบื้องต้นนายเมธีให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวไปทำแผนประกอบรับสารภาพ และนำตัวส่งไปกักขังยังเรือนจำจังหวัดตรัง เพื่อดำเนินคดีต่อไป
นางพวงทิพย์ผู้ตายรายนี้ ได้ถูกหามตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลห้วยยอด โดยมีการแจ้งต่อแพทย์ในขณะนั้นว่า มีอาการลมจับจนล้มลงหัวฟาดพื้น แต่แพทย์ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ทัน จึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา และโดยไม่สามารถระบุการตายในใบชัณสูตรพลิกศพได้ ต่อมาสามีและญาติๆ ได้นำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาเป็นเวลา 4 คืน และกำหนดจะมีพิธีฌาปณกิจศพในวันที่ 13 มีนาคม แต่กลับมีการร้องเรียนไปยังมูลนิธิปวีณา ให้อายัดศพผ่าพิสูจน์ จนกระทั่งทราบผลที่ชัดเจนว่าถูกทำร้ายจนถึงแก่ความตาย
ส่วนศพนางพวงทิพย์ขณะนี้ยังอยู่ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ (มอ.) หาดใหญ่ เนื่องจากญาติพี่น้องที่จังหวัดนครราชสีมา ได้ทำบันทึกปากคำยกให้เป็นการกุศลสำหรับนักศึกษาแพทย์และพยาบาลเพื่อจะได้เป็นอาจารย์ใหญ่ในการศึกษาวิชาชีพ และเป็นประโยชน์กับประชาชนต่อไป
