นราธิวาส – คณะกรรมการอิสลาม ผู้นำศาสนา รวมทั้งผู้นำชุมชน 13 อำเภอ จ.นราธิวาส ร่วมกันทำพิธีละหมาด พร้อมสวดดุอาร์ ส่งดวงวิญญาณจุฬาราชมนตรีคนที่ 17 ของไทย ที่จากไปด้วยโรคชรา ซึ่งถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของมุสลิมทั่วประเทศ
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่มัสยิดกลางประจำ จ.นราธิวาส นายอับดุลเลาะห์มาน อับดุลสมัต อดีตประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส เป็นตัวแทน นายอับดุลรอซัค อาลี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส ในการนำคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด รวมทั้งผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชนในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส จำนวนกว่า 300 คน ทำพิธีละหมาด ฆอเอ็บ ซึ่งเป็นการละหมาดให้แก่ศพที่ไม่ได้อยู่ตรงหน้า รวมทั้งการสวดดุอาร์ เพื่อส่งดวงวิญญาณของ นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรีคนที่ 17 ของไทย ซึ่งได้ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมอายุได้ 94 ปี
พิธีละหมาดและสวดดุอาร์ในครั้งนี้ มี นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เดินทางเข้าร่วมพิธีเพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการจากไป ที่นับว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของมุสลิมใน 63 จังหวัดทั่วประเทศ และเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมากในการทำหน้าที่เป็นกาวใจของทุกศาสนาให้เกิดความรักและสามัคคีกัน
ขณะเดียวกัน นายสวาสดิ์ ยังมีบทบาทสำคัญในการชี้แนะแนวทางในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ฝ่ายความมั่นคงนำไปปฏิบัติให้เกิดความสมานฉันท์ขึ้น สำหรับ นายสวาสดิ์ หรือชื่อเดิมคือ อะห์มัด บิน มะห์มูด ซัรกอรี ซึ่งมีพื้นเพเป็นคนหนองจอก มีนบุรี ได้รับการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรอิสลาม ในปี พ.ศ.2540
ทางด้าน นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้กล่าวต่อผู้มาร่วมพิธีว่า การจากไปของนายสวาสดิ์ นับได้ว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของมุสลิมทั่วประเทศ รวมทั้งคนไทยทุกศาสนาที่มีความรู้สึกไม่แตกต่างกัน เนื่องจากจุฬาราชมนตรีท่านนี้ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งจุฬาราชมนตรีได้อย่างดีที่สุด แม้กระทั่งไม่สามารถที่จะเดินเหินได้ต้องนั่งรถเข็น ก็ยังคงเดินทางไปร่วมในพิธีต่างๆ มากมาย
ที่สำคัญ การจากไปของ นายสวาสดิ์ สร้างความเสียใจต่อมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ในยามที่สถานการณ์ความไม่สงบยังคงเกิดขึ้นรายวัน
วันนี้ (25 มี.ค.) ที่มัสยิดกลางประจำ จ.นราธิวาส นายอับดุลเลาะห์มาน อับดุลสมัต อดีตประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส เป็นตัวแทน นายอับดุลรอซัค อาลี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จ.นราธิวาส ในการนำคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด รวมทั้งผู้นำศาสนา ผู้นำชุมชนในพื้นที่ 13 อำเภอของ จ.นราธิวาส จำนวนกว่า 300 คน ทำพิธีละหมาด ฆอเอ็บ ซึ่งเป็นการละหมาดให้แก่ศพที่ไม่ได้อยู่ตรงหน้า รวมทั้งการสวดดุอาร์ เพื่อส่งดวงวิญญาณของ นายสวาสดิ์ สุมาลยศักดิ์ จุฬาราชมนตรีคนที่ 17 ของไทย ซึ่งได้ถึงแก่อนิจกรรมด้วยโรคชรา ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เมื่อวันที่ 24 มี.ค.ที่ผ่านมา รวมอายุได้ 94 ปี
พิธีละหมาดและสวดดุอาร์ในครั้งนี้ มี นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เดินทางเข้าร่วมพิธีเพื่อเป็นการไว้อาลัยต่อการจากไป ที่นับว่าเป็นศูนย์รวมจิตใจของมุสลิมใน 63 จังหวัดทั่วประเทศ และเป็นบุคคลที่มีความสำคัญอย่างมากในการทำหน้าที่เป็นกาวใจของทุกศาสนาให้เกิดความรักและสามัคคีกัน
ขณะเดียวกัน นายสวาสดิ์ ยังมีบทบาทสำคัญในการชี้แนะแนวทางในการแก้ปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้ฝ่ายความมั่นคงนำไปปฏิบัติให้เกิดความสมานฉันท์ขึ้น สำหรับ นายสวาสดิ์ หรือชื่อเดิมคือ อะห์มัด บิน มะห์มูด ซัรกอรี ซึ่งมีพื้นเพเป็นคนหนองจอก มีนบุรี ได้รับการเลือกตั้งตามพระราชบัญญัติการบริหารองค์กรอิสลาม ในปี พ.ศ.2540
ทางด้าน นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสได้กล่าวต่อผู้มาร่วมพิธีว่า การจากไปของนายสวาสดิ์ นับได้ว่าเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ของมุสลิมทั่วประเทศ รวมทั้งคนไทยทุกศาสนาที่มีความรู้สึกไม่แตกต่างกัน เนื่องจากจุฬาราชมนตรีท่านนี้ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งจุฬาราชมนตรีได้อย่างดีที่สุด แม้กระทั่งไม่สามารถที่จะเดินเหินได้ต้องนั่งรถเข็น ก็ยังคงเดินทางไปร่วมในพิธีต่างๆ มากมาย
ที่สำคัญ การจากไปของ นายสวาสดิ์ สร้างความเสียใจต่อมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นที่พึ่งทางจิตใจให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่ในยามที่สถานการณ์ความไม่สงบยังคงเกิดขึ้นรายวัน