พัทลุง - ปริมาณน้ำในอ่าง 2 แห่งเมืองพัทลุงลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่ชลประทานพัทลุงนำเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบภัยแล้งแล้ว พร้อมกับแนะนำเกษตรกรปลูกพืชให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ชลประทานวางแผนจัดสรร
นายสุรศักดิ์ คันธา ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพัทลุง เปิดเผยว่า จากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ทำให้อุณหภูมิโดยทั่วไปสูงกว่าปกติและมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะความแห้งแล้งยาวนาน โดยจากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 2 แห่งของจังหวัดพัทลุง คือ อ่างเก็บน้ำป่าพะยอม มีปริมาณน้ำ 9.18 ล้าน ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำป่าบอนมีปริมาณน้ำ 18.39 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณฝนที่ตกในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
ประกอบกับสถานการณ์น้ำในลำน้ำธรรมชาติของจังหวัดพัทลุงมีแนวโน้มลดลง คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม อาจเกิดการขาดแคลนน้ำ ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ซึ่งทางโครงการชลประทานพัทลุงได้วางแผนการปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2552-2553 ในเขตชลประทาน รวม 74,800 ไร่ โดยแยกเป็นข้าวนาปรัง 28,900 ไร่ พืชไร่ พืชผักและไม้ผล ไม้ยืนต้นและอื่นๆ 45,900 ไร่ โดยจะเริ่มจัดสรรน้ำเข้าสู่พื้นที่เพาะปลูก ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2553 เป็นต้นไป และขอให้เกษตรกรผู้ใช้น้ำได้ทำการเพาะปลูกพืชตามแผนที่ได้วางไว้ และควรปลูกพืชในบริเวณใกล้เคียงกับแหล่งน้ำหรือระบบส่งน้ำ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงปลายฤดู
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไปช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ขาดแคลนน้ำจังหวัดพัทลุงแล้ว จำนวน 6 เครื่อง ได้แก่ พื้นที่ ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง จำนวน 4 เครื่อง พื้นที่ ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง จำนวน 1 เครื่อง และพื้นที่ ต.หานโพธิ์ อ. เขาชัยสน จำนวน 1 เครื่อง สามารถสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกได้ประมาณ 4,400 ไร่ และได้สำรองเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว ไว้จำนวน 18 เครื่อง รถบรรทุกน้ำจำนวน 3 คัน ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดพัทลุงกรณีที่เกิดภัยแล้ง หากได้รับการร้องขอสามารถให้การสนับสนุนได้ทันที
นายสุรศักดิ์ คันธา ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพัทลุง เปิดเผยว่า จากปรากฏการณ์เอลนีโญ่ ทำให้อุณหภูมิโดยทั่วไปสูงกว่าปกติและมีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะความแห้งแล้งยาวนาน โดยจากการตรวจสอบพบว่าขณะนี้สภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 2 แห่งของจังหวัดพัทลุง คือ อ่างเก็บน้ำป่าพะยอม มีปริมาณน้ำ 9.18 ล้าน ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำป่าบอนมีปริมาณน้ำ 18.39 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณฝนที่ตกในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมามีค่าต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
ประกอบกับสถานการณ์น้ำในลำน้ำธรรมชาติของจังหวัดพัทลุงมีแนวโน้มลดลง คาดว่าถ้าไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม อาจเกิดการขาดแคลนน้ำ ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ซึ่งทางโครงการชลประทานพัทลุงได้วางแผนการปลูกพืชฤดูแล้ง ปี 2552-2553 ในเขตชลประทาน รวม 74,800 ไร่ โดยแยกเป็นข้าวนาปรัง 28,900 ไร่ พืชไร่ พืชผักและไม้ผล ไม้ยืนต้นและอื่นๆ 45,900 ไร่ โดยจะเริ่มจัดสรรน้ำเข้าสู่พื้นที่เพาะปลูก ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2553 เป็นต้นไป และขอให้เกษตรกรผู้ใช้น้ำได้ทำการเพาะปลูกพืชตามแผนที่ได้วางไว้ และควรปลูกพืชในบริเวณใกล้เคียงกับแหล่งน้ำหรือระบบส่งน้ำ เพื่อจะได้ไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำในช่วงปลายฤดู
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ชลประทานได้นำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ไปช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรที่ขาดแคลนน้ำจังหวัดพัทลุงแล้ว จำนวน 6 เครื่อง ได้แก่ พื้นที่ ต.ชัยบุรี อ.เมืองพัทลุง จำนวน 4 เครื่อง พื้นที่ ต.ลำปำ อ.เมืองพัทลุง จำนวน 1 เครื่อง และพื้นที่ ต.หานโพธิ์ อ. เขาชัยสน จำนวน 1 เครื่อง สามารถสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่เพาะปลูกได้ประมาณ 4,400 ไร่ และได้สำรองเครื่องสูบน้ำขนาด 8 นิ้ว ไว้จำนวน 18 เครื่อง รถบรรทุกน้ำจำนวน 3 คัน ในการให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดพัทลุงกรณีที่เกิดภัยแล้ง หากได้รับการร้องขอสามารถให้การสนับสนุนได้ทันที