กระบี่ - ตำรวจทางหลวงกระบี่ รวบโจ๋สุราษฎร์ธานี พร้อมแฟนสาว ลักลอบค้ายาเสพติด พร้อมของกลางยาบ้ากว่า 4,000 เม็ด ซุกซ่อนใต้เบาะหลัง คาด่านตรวจ สอบสวนเบื้องต้นรับสารภาพรับยามาจากพ่อค้ารายใหญ่ พื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช อ้างนำเงินไปผ่อนรถ
วันนี้ (4 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น.ที่หน่วยบริการตำรวจทางหลวงกระบี่ พ.ต.ต.สุทัศน์ สงสยม สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 7 (กระบี่) พร้อมเจ้าหน้าที่แถลงผลการจับกุมตัว นายมาโนชย์ หีตสองแพรก อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 18 ม.3 ต.ชัยบุรี อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี และ น.ส.ลักขณา มงกุฎแก้ว อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 96/1 ม.1 ต.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ต้องหาคดีค้ายาบ้า
พร้อมของกลางยาบ้า จำนวน 4,140 เม็ด, อาวุธปืนพกขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จำนวน 8 นัด,เงินสด จำนวน 49,730 บาท,รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้าซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กข-9354 กระบี่ จำนวน 1 คัน พร้อมอุปกรณ์เสพยาบ้า 1 ชุด และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง
ทั้งนี้ ก่อนการจับกุมขณะที่ ด.ต.พรชัย น้อยลัทธี ด.ต.วิษณุ ถึงสุข และ ด.ต.ธรา แสงสุวรรณะ ปฏิบัติหน้าที่ประจำหน่วยบริการตำรวจทางหลวงกระบี่ ได้ออกตระเวนตรวจพื้นที่ ขณะขับรถตรวจตรา บนทางหลวงหมายเลขที่ 4 ถึง กม.995-996 หมู่ 7 ต.เพหลา อ.คลองท่อม จ.กระบี่ ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.สุกาญจน์ นิลอ่อน รองผู้กำกับการ 7 ว่า
ได้รับแจ้งสายลับว่า จะมีการลำเลียงยาบ้าจำนวนมาก ผ่านเส้นทางดังกล่าว โดยใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า ซิตี้ สีดำ หมายเลขทะเบียน กข-9354 กระบี่ จนเมื่อเวลาประมาณ 06.30 น.ได้พบรถยนต์คันดังกล่าวจึงแสดงตัวเรียกให้จอดรถ เพื่อทำการตรวจค้นโดยมี นายมาโนชย์ เป็นคนขับ และ น.ส.ลักขณา นั่งข้าง
พบของกลางยาบ้าซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะนั่งหลัง ภายในกล่องเครื่องสำอางยี่ห้อดังอายูร่าพิ้งเลดี้ และมีการโรยพริกป่นภายในกล่อง เพื่อดับกลิ่น และห่อทับด้วยกระดาษอีก 1 ชั้น จำนวน 4,140 เม็ด นอกจากนี้ ยังตรวจพบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก
พร้อมเงินสดจำนวน 49,730 บาท อยู่ในกระเป๋าของ น.ส.ลักขณา จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมควบคุมตัวมาทำการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม
จากการสอบสวน นายมาโนชย์ ให้การรับสารภาพว่า ค้ายาบ้าจริง โดยร่วมกับ น.ส.ลักขณา แฟนสาว ซึ่งเปิดร้านเสริมสวยอยู่ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำมานานประมาณ 1 ปีเศษ โดยรับยาบ้ามาจากพ่อค้ารายใหญ่ในพื้นที่ อ.ทุ่งส่ง จ.นครศรีธรรมราช ราคาเม็ดละกว่า 100 บาท จำนวน 4,140 เม็ด ราคา 52,0000 บาท และนำไปส่งต่อให้กับพ่อค้ารายย่อยอีกทอดหนึ่ง ทั้งในพื้นที่ จ.กระบี่ และใกล้เคียง เพราะไม่มีเงินผ่อนรถ และรายได้ดี เจ้าหนาที่จึงนำตัวส่งเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ ดำเนินคดีตามกฎหมาย