กระบี่ - อบต.อ่าวนางแจงเหตุบ่อบำบัดเกาะพีพีส่งกลิ่นเหม็น เกิดจากไม่ได้รับการกำจัดไขมันก่อนปล่อยสู่ระบบ
นายพันคำ กิตติธรกุล นายกอบต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการร้องเรียนว่า บ่อบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ บนเกาะพีพีที่ได้รับงบสนับสนุนจากประเทศเดนมาร์ค 28 ล้านบาทเริ่มมีปัญหา และส่งกลิ่นเน่าเหม็น สร้างความเดือดร้อนนักท่องเที่ยวนั้น สาเหตุเนื่องมาจากทางผู้ประกอบการบางรายบนเกาะพีพีปล่อยน้ำเสียออกมาโดยไม่มีการบำบัดในเบื้องต้นก่อนปล่อยลงสู่ระบบ
เช่น ต้องมีถังดักไขมัน ส่งผลทำให้เกิดการอุดตัน ไม่สามารถระบายน้ำเสียได้ ทำให้อายุการใช้งานของบ่อบำบัดลดน้อยลง จากอายุการใช้งาน5 ปี เหลือ เพียง 3 ปี ซึ่งทำให้ระบบการบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์เกิดความเสียหาย ไม่สามารถกำจัดน้ำเสียได้ ตามปกติได้
นอกจากนี้ ทางรัฐบาลเดนมาร์คได้หยุดให้งบดูแลระบบมาเป็นเวลา 3เดือนแล้ว ตามสัญญา 5ปี ปีละ 5 แสนบาท เหลือเพียง 3 ปี โดยรัฐบาลเดนมาร์คอ้างว่า ไม่มีการรันเครื่อง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ทางอบต.อ่าวนางก็ไม่ได้นิ่งเฉย ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในเบื้องต้น โดยจัดสรรงบประมาณในเรื่องค่าไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตกเดือนละ 2 หมื่นกว่าบาท รวมกว่า 5 หมื่นบาทเพื่อให้เครื่องทำงานต่อไปได้
นอกจากนี้ ได้ของบสนับสนุนกรมส่งเสริมการปกครองอีก 3.5 ล้านบาท เพื่อดำเนินการจัดจ้างผู้รับเหมาแก้ไขระบบ ให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม แต่ประกาศหาผู้รับเหมาไป 4 ครั้ง ยังไม่มีผู้รับเหมาเข้ามายื่นซองประมูลแม้แต่รายเดียว เนื่องจากเป็นพื้นที่เกาะ การเดินทางลำบาก และมีกำไรน้อย ซึ่งจะต้องดำเนินการปรับปรุงในส่วนที่ทำได้ไปก่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ผู้ประกอบการรวมทั้งนักท่องเที่ยว
นายพันคำ กิตติธรกุล นายกอบต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ กล่าวว่า จากกรณีที่มีการร้องเรียนว่า บ่อบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์ บนเกาะพีพีที่ได้รับงบสนับสนุนจากประเทศเดนมาร์ค 28 ล้านบาทเริ่มมีปัญหา และส่งกลิ่นเน่าเหม็น สร้างความเดือดร้อนนักท่องเที่ยวนั้น สาเหตุเนื่องมาจากทางผู้ประกอบการบางรายบนเกาะพีพีปล่อยน้ำเสียออกมาโดยไม่มีการบำบัดในเบื้องต้นก่อนปล่อยลงสู่ระบบ
เช่น ต้องมีถังดักไขมัน ส่งผลทำให้เกิดการอุดตัน ไม่สามารถระบายน้ำเสียได้ ทำให้อายุการใช้งานของบ่อบำบัดลดน้อยลง จากอายุการใช้งาน5 ปี เหลือ เพียง 3 ปี ซึ่งทำให้ระบบการบำบัดน้ำเสียแบบบึงประดิษฐ์เกิดความเสียหาย ไม่สามารถกำจัดน้ำเสียได้ ตามปกติได้
นอกจากนี้ ทางรัฐบาลเดนมาร์คได้หยุดให้งบดูแลระบบมาเป็นเวลา 3เดือนแล้ว ตามสัญญา 5ปี ปีละ 5 แสนบาท เหลือเพียง 3 ปี โดยรัฐบาลเดนมาร์คอ้างว่า ไม่มีการรันเครื่อง อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา ทางอบต.อ่าวนางก็ไม่ได้นิ่งเฉย ได้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในเบื้องต้น โดยจัดสรรงบประมาณในเรื่องค่าไฟฟ้าและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตกเดือนละ 2 หมื่นกว่าบาท รวมกว่า 5 หมื่นบาทเพื่อให้เครื่องทำงานต่อไปได้
นอกจากนี้ ได้ของบสนับสนุนกรมส่งเสริมการปกครองอีก 3.5 ล้านบาท เพื่อดำเนินการจัดจ้างผู้รับเหมาแก้ไขระบบ ให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม แต่ประกาศหาผู้รับเหมาไป 4 ครั้ง ยังไม่มีผู้รับเหมาเข้ามายื่นซองประมูลแม้แต่รายเดียว เนื่องจากเป็นพื้นที่เกาะ การเดินทางลำบาก และมีกำไรน้อย ซึ่งจะต้องดำเนินการปรับปรุงในส่วนที่ทำได้ไปก่อน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ผู้ประกอบการรวมทั้งนักท่องเที่ยว
