สุราษฎร์ธานี-จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกาศให้อำเภอพระแสง และอำเภอกาญจนดิษฐ์ เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว ด้านผู้ว่าราชการจังหวัด สั่งดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับโรงงานสกัดปาล์มน้ำมัน ที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองอิปัน ขณะที่สถานการณ์ภัยแล้งเริ่มขยายวงกว้างเพิ่มอีกหลายอำเภอ
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายดำริห์ บุญจริง ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกประชุมด่วนหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือมาตรการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ภัยแล้งที่เกิดในพื้นที่ พร้อมกับออกประกาศให้ อ.กาญจนดิษฐ์ และ อ.พระแสง เป็นพื้นที่ประสบภัยแล้งแล้ว
พร้อมสั่งการให้ นายโชตินรินทร์ เกิดสม ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสุราษฎร์ธานี นำเจ้าหน้าที่บรรจุกระสอบทรายไปกั้นกักเก็บน้ำในลำคลองต่าง ๆ เพื่อชะลอการไหล และให้นำน้ำไปแจจ่ายประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น และเร่งสำรวจพื้นที่ประสบภัยแล้ง ให้การช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แต่งตั้งให้ นายสมศักดิ์ จังตระกูล รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานตรวจสอบโรงงานสกัดปาล์มน้ำมันที่ลักลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองอิปัน ส่งผลให้ชาวบ้านกว่า 30,000 ครัวเรือน พื้นที่ 5 ตำบลของอำเภอพระแสง ไม่สามารถนำน้ำขึ้นมาใช้อุปโภคบริโภคได้ เมื่อใช้อาบจะเกิดอาการแพ้ เป็นผดผื่นคัน โดยเฉพาะในเด็ก และผู้สูงอายุ
นายดำริห์ บุญจริง ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ปริมาณน้ำฝนในพื้นที่ขณะนี้เป็น 0 ส่งผลให้ความแห้งแล้งขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แหล่งน้ำหลายพื้นที่แห้งขอดอย่างรวดเร็ว และคาดว่า สถานการณ์ภัยแล้งจะขยายตัวเพิ่มขึ้น เบื้องต้นทางจังหวัดได้จัดส่งรถน้ำออกแจกจ่ายน้ำแก่ประชาชน เพื่อเป็นการช่วยเหลือระยะแรกก่อน
ส่วนตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญที่เป็นเกาะแก่ง ได้แก่ เกาะสมุย ,เกาะพะงัน และเกาะเต่า หากเป็นธุรกิจท่องเที่ยวทางผู้ประกอบการได้จัดเตรียมอุปกรณ์เก็บกักน้ำไว้ล่วงหน้าแล้ว เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว ป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว
พร้อมกันนี้ ทางจังหวัดได้ประสานขอให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งสำนักฝนหลวง และการบินเกษตร มาตั้งฐานปฏิบัติการที่กองบิน 7 สุราษฎร์ธานี คาดว่า จะมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากภาวะภัยแล้งทั้งหมด 19 อำเภอ 124 ตำบล 838 หมู่บ้าน.