ยะลา - "สุเทพ"ให้หน่วยงานความมั่นคงหามาตรการรองรับการทำงานใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังผลทดสอบเครื่องจีที 200 ใช้ไม่ได้ผล ขณะ ผบ.ทบ.กำชับเจ้าหน้าที่ใช้ด้วยความระมัดระวัง พร้อมย้ำทหารต้องเอาชนะใจประชาชน ไม่ความรุนแรง
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ. ยะรัง จ. ปัตตานี หลังจากมีการประชุมทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) ได้ออกมาเปิดเผย กรณีเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 ที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ว่า ได้มีการปรึกษาหารือกันที่จะหามาตรการที่จะมารองรับ ในครั้งนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไปเตรียมการเรื่องของการปรับปรุง ในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ โดยเฉพาะวิธีการปรับเรื่องการข่าว งบประมาณที่ใช้ รวมทั้งเครื่องมือที่ทางแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ทำโครงการมา ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องมือที่มีราคาแพง ให้สามารถใช้งานได้โดยต้องการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ละเจ้าหน้าที่ของรัฐ
สำหรับเครื่อง เซเบอร์ 4000 และไฟโดซึ่งทางแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ได้มีการเตรียมการนำมาใช้ ถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงมาก ที่ชุดละกว่า 3 ล้านบาท ก็จะต้องจัดให้พอดีกับความต้องการ ในขณะเดียวกันได้มีการเตรียมเครื่องมืออย่างอื่นมาใช้เสริม และก่อนนำมาใช้ก็จะต้องมีการตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วย
ทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า หลังจากเครื่อง จีที 200 ได้มีการทดสอบทางด้านวิทยาศาสตร์ว่าใช้ไม่ได้ผล ทางนายกรัฐมนตรีได้บอกให้ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ลงมาชี้แจงต่อผู้ปฏิบัติว่าใช้ได้หรือไม่ได้ และในขณะนี้หากจะใช้ ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ไม่ไปเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ทำการปฏิบัติมาเช่นนี้ การใช้เครื่องจีที 200 ให้ใช้ตรวจสอบเฉพาะพื้นที่กว้างๆ เงื่อนไขที่สอง ให้แจ้งกำลังพลให้ทราบด้วยว่า เนื่องจากยังมีปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครื่องมือนี้ที่เกรงว่า อาจจะมีอันตรายกับผู้ใช้ก็ให้มีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นด้วย
ส่วนกรณีที่มีการโปรยใบปลิวโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้น ซึ่งการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จะต้องเอาชนะจิตใจประชาชนในพื้นที่ให้ได้ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะไม่ทำร้ายพี่น้องประชาชน เพราะไม่ใช่เป็นวิธีในการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง สิ่งที่ถูกต้องคือต้องเอาชนะจิตใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้นโยบายตามยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ การเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ซึ่งจะทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขต่อไป
วันนี้ (19 ก.พ.) ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 2 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ. ยะรัง จ. ปัตตานี หลังจากมีการประชุมทุกฝ่ายที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี (ฝ่ายความมั่นคง) ได้ออกมาเปิดเผย กรณีเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิด จีที 200 ที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ว่า ได้มีการปรึกษาหารือกันที่จะหามาตรการที่จะมารองรับ ในครั้งนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงไปเตรียมการเรื่องของการปรับปรุง ในการรักษาความปลอดภัยพื้นที่ โดยเฉพาะวิธีการปรับเรื่องการข่าว งบประมาณที่ใช้ รวมทั้งเครื่องมือที่ทางแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ได้ทำโครงการมา ถึงแม้ว่าจะเป็นเครื่องมือที่มีราคาแพง ให้สามารถใช้งานได้โดยต้องการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ละเจ้าหน้าที่ของรัฐ
สำหรับเครื่อง เซเบอร์ 4000 และไฟโดซึ่งทางแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ได้มีการเตรียมการนำมาใช้ ถึงแม้ว่าจะมีราคาแพงมาก ที่ชุดละกว่า 3 ล้านบาท ก็จะต้องจัดให้พอดีกับความต้องการ ในขณะเดียวกันได้มีการเตรียมเครื่องมืออย่างอื่นมาใช้เสริม และก่อนนำมาใช้ก็จะต้องมีการตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้งานด้วย
ทางด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า หลังจากเครื่อง จีที 200 ได้มีการทดสอบทางด้านวิทยาศาสตร์ว่าใช้ไม่ได้ผล ทางนายกรัฐมนตรีได้บอกให้ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ลงมาชี้แจงต่อผู้ปฏิบัติว่าใช้ได้หรือไม่ได้ และในขณะนี้หากจะใช้ ต้องอยู่ในเงื่อนไขที่ไม่ไปเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้ทำการปฏิบัติมาเช่นนี้ การใช้เครื่องจีที 200 ให้ใช้ตรวจสอบเฉพาะพื้นที่กว้างๆ เงื่อนไขที่สอง ให้แจ้งกำลังพลให้ทราบด้วยว่า เนื่องจากยังมีปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพของเครื่องมือนี้ที่เกรงว่า อาจจะมีอันตรายกับผู้ใช้ก็ให้มีความระมัดระวังเพิ่มมากขึ้นด้วย
ส่วนกรณีที่มีการโปรยใบปลิวโจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่นั้น ซึ่งการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้จะต้องเอาชนะจิตใจประชาชนในพื้นที่ให้ได้ เพราะฉะนั้นเจ้าหน้าที่จะไม่ทำร้ายพี่น้องประชาชน เพราะไม่ใช่เป็นวิธีในการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง สิ่งที่ถูกต้องคือต้องเอาชนะจิตใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้นโยบายตามยุทธศาสตร์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ การเข้าใจ เข้าถึง พัฒนา ซึ่งจะทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขต่อไป