รมว.ศึกษาลงพื้นที่ยะลาประชุม รปภ.ครู –ร่วมพิธีพระราชทานเพลิงศพครูเหยื่อฆ่าแล้วเผา

ยะลา - รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ประเดิมตำแหน่งลงพื้นที่จังหวัดยะลาประชุมการดูแลรักษาความปลอดภัยครู และเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพครูสัมฤทธิ์ พันธเดช เหยื่อฆ่าแล้วเผา

วันนี้ (14 ก.พ.) ที่ห้องประชุม สำนักผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการที่ 12 ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะ เดินทางมามอบนโยบายการพัฒนาการศึกษาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ ร่วมประชุมกับผู้บริหารสถานศึกษา และ หน่วยงานด้านความมั่นคง เกี่ยวกับการดูแลรักษาความปลอดภัยครู และบุคลากรทางการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของ จ.สงขลา หลังเข้ารับรับตำแหน่งใหม่ เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ในการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่

โดยมี พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4/ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ปัตตานี ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้การต้อนรับและเข้าร่วมในการประชุม

หลังจากนั้น เวลา 14.30 น. ที่บริเวณ ฌาปนสถานวัดเวฬุวัน ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมคณะ ได้เดินทางาเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ นายสัมฤทธิ์ พันธเดช อายุ 52 ปี ครูโรงเรียนบ้านบาโงยือแบ็ง หมู่ที่ 5 ต.กะลุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ซึ่งถูกคนร้ายใช้อาวุธสงคราม เอ็ม 16 ลอบยิงและเผา ขณะขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนตัวเดินทางกลับจากโรงเรียน เพื่อเดินทางกลับบ้านพัก ในเขตเทศบาลนครยะลา เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันที่ 8 ก.พ.53 ที่ผ่านมา เหตุเกิดบนถนนสายในหมู่บ้าน สายเขาดิน – บ้านบือแนลาแล หมู่ที่ 8 ต.ปล่องหอย อ.กะพ้อ

โดยมี พล.ท.พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า นายภาณุ อุทัยรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกฤษฎา บุญราช ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา นายธีรเทพ ศรียะพันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ข้าราชการในระดับสูงของกระทรวงศึกษาธิการ และ เพื่อนข้าราชการครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประชาชน และ ครอบครัว เข้าร่วมในพิธี เป็นจำนวนมาก ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจ ทั้งนี้ นายชินวรณ์ บุญเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยังได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา ให้กับ นายวิชัย พันธเดช บิดาของ นายสัมฤทธิ์ พันธเดช เป็นเงินจำนวนหนึ่ง

นายวิชัย พันธเดช กล่าวว่า ตนเองรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเพลิงศพ นายสัมฤทธิ์ พันธเดช ในครั้งนี้ ซึ่งนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นเกียรติอันสูงสุดแก่ผู้วายชนม์ และวงศ์ตระกูล อย่างหาที่สุดมิได้ และ จะเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อมเป็นสรรพศิริมงคลแก่ครอบครัว

สำหรับประวัติของ นายสัมฤทธิ์ พันธเดช เกิดเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 2502 อายุ 52 ปี เป็นบุตรคนที่ 1 ของนายวิชัย และ นางอัมพร พันธเดช มีพี่น้อง จำนวน 4 คน เริ่มรับรับราชการ เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2539 ที่โรงเรียนบ้านบาโงยือแบ็ง ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จนถึงปัจจุบันดำรงดำรงแหน่ง ครู คศ.2 วิทยาฐานะชำนาญการ ทำการสอนนักเรียนประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สถานภาพโสด อาศัยอยู่กับบิดามารดา ที่บ้านเลขที่10 ซอยสะพรั่งอุทิศ ถนนอาคารสงเคราะห์ ต.สะเตง อ.เมือง จ.ยะลา ตลอดระยะเวลา ที่ทำงานในพื้นที่ ครูมา นายสัมฤทธิ์ พันธเดช ได้ทุ่มเท ทั้งแรงกาย แรงใจ เสียสละ และ ทุ่มเทในการทำหน้าที่ครูของตนเองด้วยดีเสมอมา เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนครู ผู้บังคับบัญชา ตลอดจนเด็กนักเรียน ซึ่งการสูญเสียในครั้งนี้นับเป็นการสูญเสียบุคลากรทางการศึกษา เป็นรายที่ 114 นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบเป็นต้นมา

นายชินวรณ์ บุญยเกียรติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า ตั้งแต่ตนเองเข้ามารับตำแหน่งในสัปดาห์แรก ตนเองก็ได้มีการประสานงานกับ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าไปพบปะกับ ผู้บัญชาการทหารบก และ ตนเองยังได้ประสานกับทางแม่ทัพภาคที่ 4 เพื่อที่จะได้ร่วมกันดูแลในเรื่องของความปลอดภัยในชีวิต และ ทรัพย์สิน ของเพื่อนครู ซึ่งมีความสำคัญเป็นอับดับแรก

ซึ่งจากการพบปะและพูดคุยกับแกนนำครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็ได้ยืนยันอย่างชัดเจนว่าไม่ว่าเหตุการณ์ในพื้นที่จะเป็นอย่างไร ครูที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ทุกคน ก็จะปฏิบัติงานต่อไปอย่างไม่ย่อท้อ เพื่อให้ความรู้กับลูกศิษย์ให้มากที่สุด โดยจะใช้การศึกษาเป็นตัวนำในการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน ซึ่งเป็นที่ยินดีที่ทุกฝ่ายจะร่วมกับกันขับเคลื่อนในการปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษ ที่ 2 โดยตนเองจะนัดทุก ๆ ฝ่ายมาแถลงนโยบายในการจัดการศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกครั้งหนึ่งในช่วงปลายเดือน มีนาคม เพื่อให้การศึกษาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีประสิทธิภาพ และ ก้าวทันกับพื้นที่อื่นต่อไป