ตรัง - แม่ค้าจำหน่ายพืชผักผลไม้ในตลาดสดเทศบาลนครตรัง โอดครวญราคาสินค้าปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ยชนิดละ 5 - 10 บาท ในช่วงเทศกาลตรุษจีน และวาเลนไทน์ ปี 2553
วันนี้ (10 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดตรังได้สำรวจบรรยากาศการจับจ่ายตลาดของประชาชนชาวตรัง ในช่วงก่อนจะถึงเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2553 ซึ่งในปีนี้ยังตรงกับช่วงเทศกาลวาเลนไทน์ด้วยนั้น โดยพบว่ายังมีผู้คนออกมาจับจ่ายซื้อของกันไม่มากเท่าที่ควร แต่คาดว่าบรรยากาศจะคึกคักอย่างมากในช่วงระหว่างวันที่ 12 - 13 กุมภาพันธ์ นี้
เจ้าของแผงจำหน่ายผลไม้รายใหญ่ ในตลาดสดเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ช่วงนี้เริ่มมีประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อของกันมากขึ้น แต่ราคาผลไม้ทุกชนิดก็มีการปรับขึ้นอย่างน้อยชนิดละ 5 บาท และผลไม้ที่ปรับราคาสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดก็คือ ส้ม โดยมีการปรับราคาขึ้นรายวัน นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา จากเดิมกิโลกรัมละ 30 บาท ขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 50 บาทแล้ว และคาดว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีน ราคาจะเพิ่มขึ้นไปถึง 60 - 70 บาท ส่วนกล้วยหอมทอง ก็มีราคาเพิ่มขึ้นอีกหวีละ 10 บาท ขณะที่ผลไม้อื่นๆ ในช่วงเทศกาลตรุษจีนของปีนี้ มีราคาจะเพิ่มขึ้นกิโลกรัมละประมาณ 5 - 10 บาท
เจ้าของแผงจำหน่ายพืชผักรายใหญ่ ในตลาดสดเทศบาลนครตรัง กล่าวว่า ปีนี้พืชผักทุกชนิดมีราคาแพงมากกว่าปีที่ผ่านมาเกือบ 3 เท่าตัว โดยเฉพาะผักคะน้า และผักบุ้ง มีไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่วนผักกาดขาว มีราคาเพิ่มขึ้นสูงมาก จากกิโลกรัมละ 10 บาท เป็น 35 บาท ทั้งๆ ที่พืชผักเองก็ไม่สวยงามเท่าที่ควร ในขณะที่ผักกาด และถั่วฝักยาว เริ่มขาดแคลนแล้ว จนต้องมีการสั่งจองสินค้ากันไว้ล่วงหน้า เพื่อจะได้นำมาจำหน่ายให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน
สำหรับสาเหตุที่ทำให้พืชผักแทบทุกชนิดมีการปรับขึ้นราคาอย่างสูงนั้น คาดว่ามาเกษตรกรชาวภาคเหนือที่ลดปริมาณการเพาะปลูกลง อันเนื่องมาจากก่อนหน้าที่ต้องประสบกับปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ จนส่งผลให้เกษตรกรเลิก และลดปริมาณการปลูกพืชผักบางชนิด แล้วหันไปปลูกพืชผักชนิดอื่นแทน ส่งผลให้ในช่วงระยะนี้ไปจนถึงช่วงหลังเทศกาลตรุษจีน ประจำปี 2553 จะมีราคาพืชผักสูงขึ้น