ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ผอ.สถาบันวิจัยฯภูเก็ตระบุการลอบจับปลาสวยงามทำระบบนิเวศน์ใต้ทะเลเสียหายอย่างรายแรง โดยเฉพาะปลาแนวปะการัง เมื่อจับออกไปจำนวนมากอาจจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ “ดาวหนามระบาด” ได้ ขณะที่การลักลอบจับปลาสวยงามนั้นทำเป็นขบวนการส่งผลให้การจับกุมทำได้ยาก
นายวรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผู้อำนวยการสถาบันวิชัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การลักลอบจับปลาสวยงามเพื่อส่งไปขายให้กับอะควอเรี่ยม และผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงปลาสวยงามว่า สำหรับสถานการณ์การลักลอบจับปลาสวยงามเพื่อส่งขายตามออเดอร์นั้นถือว่ามีความรุนแรงมากและมีการลักลอบจับกันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการสั่งซื้อเข้ามาตลอดเวลา
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้จับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมด้วยของกลางปลาสวยงาม รวมทั้งปะการังมูลค่ากว่า 2 แสนบาท โดยขณะนี้ปลายสวยงามที่เป็นของกลางได้ดูแลอนุบาลไว้ที่บ่ออนุบาลของสถาบันฯ ส่วนผู้ต้องหานั้นขณะนี้ได้นำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว
“สำหรับการลักลอบจับปลาสวยงามนั้น ยอมรับว่ามีความรุนแรงมากโดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงาซึ่งยังมีบางพื้นที่ที่อยู่นอกเขตคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทำให้กลุ่มผู้ลักลอบจับปลาสวยงามมักจะลักลอบจับปลาในบริเวณดังกล่าวแทนเนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการจับกุม แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีบางส่วนที่ลักลอบเจ้ามาจับปลาในเขตประกาศคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอยู่ซึ่งบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมได้”
นายวรรณเกียรติกล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ที่ลักลอบจับปลาและผู้ที่ต้องการเลี้ยงปลาสวยงามต่างมองว่าปลาสวยงามบางชนิดเป็นปลาเศรษฐกิจสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง แต่จริงแล้วการจับปลาเหล่านี้โดยเฉพาะปลาในแนวปะการังออกไปนั้นเป็นการทำลายระบบสิ่งแวดล้อมในท้องทะเลอย่างร้างแรง เพราะสัตว์ทะเลเหล่านี้มีการดำรงชีวิตที่พึ่งพาอาศัยกันทำให้ระบบนิเวศสามารถอยู่ได้ ซึ่งการจับปลาบางชนิดจากแนวปะการังออกไปจำนวนมากอาจจะส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ “ดาวหนาม” ระบาดได้
ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ดาวหนามระบาดเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ในพื้นที่ของเกาะจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากมีการจับปลาสวยงามบริเวณแนวปะการังซึ่งเป็นปลาที่กินตัวอ่อนของดาวหนามออกไป ทำให้ดาวหนามขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วโดยไม่มีการควบคุม เมื่อดาวหนามขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วสิ่งที่ตามมาคือการทำลายแนวปะการัง และเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว
เพราะฉะนั้น อยากให้มีการคำนึงถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่จะมองแค่ความสุขของตัวเอง เพราะถ้าระบบธรรมชาติเกิดความเสียหายปัญหาต่างก็จะตามมาอีกจำนวนมาก
ขณะที่ นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งที่ 5 กล่าวถึงการจับกุมขบวนการลักลอบจับปลาสวยงามในทะเลเพื่อส่งไปขายให้กับผู้ที่สั่งซื้อจากพื้นที่ต่างๆ ว่า ขณะนี้การลักลอบจับปลาสวยงามเพื่อส่งไปขายตามออเดอร์นั้นจะมีการทำเป็นขบวนการ และขบวนการที่จับกุมได้ล่าสุดถือว่าเป็นขบวนการที่ใหญ่มากและทำมาแล้วหลายครั้ง มีการวางแผนในการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน ทั้งเรื่องของการออกไปจับปลาซึ่งในการจับปลานั้นจะมีเรือดูต้นทาง เรือหลอกกเจ้าหน้าที่
เมื่อจับปลามาแล้วจะนำไปทิ้งตามจุดนัดหมายหลังจากนั้นจะมีรถมาเก็บและนำไปแพ็กลงกล่องส่งไปทางรถทัวร์โดยสารโดยไม่ระบุชื่อ เมื่อไปถึงจุดหมายก็จะมีคนมารอทำให้การจับกุมของเจ้าหน้าที่ทำได้ยาก
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ที่มีการลักลอบจับปลาสวยงามมากที่สุดในขณะนี้จะอยู่ที่บริเวณหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ไกลและสามารถที่จะนำมาปลามาขึ้นได้หลายจุด
สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นพบว่ามีการลักลอบจับน้อยลงเนื่องจากที่ผ่านมาทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้ข้อมูลให้กับแนะนำกับกลุ่มที่เคยออกลักลอบจับปลาสวยงาม จนขณะนี้คนเหล่านี้ได้กลายมาเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังให้กับหน่วยงานราชการแทน ส่งผลให้การลักลอบจับปลาสวยงามในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตลดลงไปด้วย
นายวรรณเกียรติ ทับทิมแสง ผู้อำนวยการสถาบันวิชัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลชายฝั่งทะเลและป่าชายเลน ภูเก็ต กล่าวถึงสถานการณ์การลักลอบจับปลาสวยงามเพื่อส่งไปขายให้กับอะควอเรี่ยม และผู้ที่ชื่นชอบการเลี้ยงปลาสวยงามว่า สำหรับสถานการณ์การลักลอบจับปลาสวยงามเพื่อส่งขายตามออเดอร์นั้นถือว่ามีความรุนแรงมากและมีการลักลอบจับกันอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมีการสั่งซื้อเข้ามาตลอดเวลา
ล่าสุด เจ้าหน้าที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติได้จับกุมผู้กระทำความผิดพร้อมด้วยของกลางปลาสวยงาม รวมทั้งปะการังมูลค่ากว่า 2 แสนบาท โดยขณะนี้ปลายสวยงามที่เป็นของกลางได้ดูแลอนุบาลไว้ที่บ่ออนุบาลของสถาบันฯ ส่วนผู้ต้องหานั้นขณะนี้ได้นำตัวส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีแล้ว
“สำหรับการลักลอบจับปลาสวยงามนั้น ยอมรับว่ามีความรุนแรงมากโดยเฉพาะพื้นที่รอยต่อระหว่างจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดพังงาซึ่งยังมีบางพื้นที่ที่อยู่นอกเขตคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทำให้กลุ่มผู้ลักลอบจับปลาสวยงามมักจะลักลอบจับปลาในบริเวณดังกล่าวแทนเนื่องจากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถดำเนินการจับกุม แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีบางส่วนที่ลักลอบเจ้ามาจับปลาในเขตประกาศคุ้มครองสิ่งแวดล้อมอยู่ซึ่งบางครั้งเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมได้”
นายวรรณเกียรติกล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ที่ลักลอบจับปลาและผู้ที่ต้องการเลี้ยงปลาสวยงามต่างมองว่าปลาสวยงามบางชนิดเป็นปลาเศรษฐกิจสามารถจำหน่ายได้ในราคาสูง แต่จริงแล้วการจับปลาเหล่านี้โดยเฉพาะปลาในแนวปะการังออกไปนั้นเป็นการทำลายระบบสิ่งแวดล้อมในท้องทะเลอย่างร้างแรง เพราะสัตว์ทะเลเหล่านี้มีการดำรงชีวิตที่พึ่งพาอาศัยกันทำให้ระบบนิเวศสามารถอยู่ได้ ซึ่งการจับปลาบางชนิดจากแนวปะการังออกไปจำนวนมากอาจจะส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ “ดาวหนาม” ระบาดได้
ทั้งนี้ ปรากฏการณ์ดาวหนามระบาดเคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อเร็วๆ นี้ในพื้นที่ของเกาะจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากมีการจับปลาสวยงามบริเวณแนวปะการังซึ่งเป็นปลาที่กินตัวอ่อนของดาวหนามออกไป ทำให้ดาวหนามขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วโดยไม่มีการควบคุม เมื่อดาวหนามขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วสิ่งที่ตามมาคือการทำลายแนวปะการัง และเกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาว
เพราะฉะนั้น อยากให้มีการคำนึงถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากกว่าที่จะมองแค่ความสุขของตัวเอง เพราะถ้าระบบธรรมชาติเกิดความเสียหายปัญหาต่างก็จะตามมาอีกจำนวนมาก
ขณะที่ นายไพทูล แพนชัยภูมิ ผู้อำนวยศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งที่ 5 กล่าวถึงการจับกุมขบวนการลักลอบจับปลาสวยงามในทะเลเพื่อส่งไปขายให้กับผู้ที่สั่งซื้อจากพื้นที่ต่างๆ ว่า ขณะนี้การลักลอบจับปลาสวยงามเพื่อส่งไปขายตามออเดอร์นั้นจะมีการทำเป็นขบวนการ และขบวนการที่จับกุมได้ล่าสุดถือว่าเป็นขบวนการที่ใหญ่มากและทำมาแล้วหลายครั้ง มีการวางแผนในการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน ทั้งเรื่องของการออกไปจับปลาซึ่งในการจับปลานั้นจะมีเรือดูต้นทาง เรือหลอกกเจ้าหน้าที่
เมื่อจับปลามาแล้วจะนำไปทิ้งตามจุดนัดหมายหลังจากนั้นจะมีรถมาเก็บและนำไปแพ็กลงกล่องส่งไปทางรถทัวร์โดยสารโดยไม่ระบุชื่อ เมื่อไปถึงจุดหมายก็จะมีคนมารอทำให้การจับกุมของเจ้าหน้าที่ทำได้ยาก
อย่างไรก็ตาม สำหรับพื้นที่ที่มีการลักลอบจับปลาสวยงามมากที่สุดในขณะนี้จะอยู่ที่บริเวณหมู่เกาะสิมิลัน จ.พังงา เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่อยู่ไกลและสามารถที่จะนำมาปลามาขึ้นได้หลายจุด
สำหรับในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นพบว่ามีการลักลอบจับน้อยลงเนื่องจากที่ผ่านมาทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้าไปให้ข้อมูลให้กับแนะนำกับกลุ่มที่เคยออกลักลอบจับปลาสวยงาม จนขณะนี้คนเหล่านี้ได้กลายมาเป็นเครือข่ายเฝ้าระวังให้กับหน่วยงานราชการแทน ส่งผลให้การลักลอบจับปลาสวยงามในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตลดลงไปด้วย
