ศูนย์ข่าวภูเก็ต-ขอจัดสรรที่ดินในภูเก็ตช่วงต้นปีซบเซา ตั้งแต่ตุลาฯเป็นต้นมามีเพียงรายเดียว แต่คอนโดมิเนียมกำลังมาแรงจากที่ภูเก็ตมีข้อจำกัดเรื่องที่ดิน
นายไพทูรย์ เลิศไกร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด กล่าวถึง ภาพรวมการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมในพื้นที่ภูเก็ต ว่า การยื่นขออนุญาตพัฒนาที่ดินเป็นบ้านจัดสรรที่ภูเก็ต ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2553 เป็นต้นมา นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 นั้น มีการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด มีโครงการใหม่เพียงโครงการเดียวเท่านั้นที่ยื่นขอจัดสรรเข้ามา
ทั้งนี้เนื่องจากในปีงบประมาณ 2552 ที่ผ่านมา ผู้ลงทุนบ้านจัดสรรได้ยื่นขอเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้โครงการหลายๆ โครงการที่ได้รับการจัดสรรแล้วอยู่ในระหว่างการขายและการก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม คิดว่าการพัฒนาที่ดินในส่วนของบ้านจัดสรรในภูเก็ต ยังมีอย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะเมื่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตกลับมาฟื้นตัว ธุรกิจบ้านจัดสรรก็จะขยายตัวตามธุรกิจท่องเที่ยว
ส่วนการพัฒนาที่ดินที่เป็นคอนโดมิเนียม มีการขยายตัวสูงมาก ในปี 2552 ที่ผ่านมามีโครงการที่เป็นคอนโดมิเนียมทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางเกิดขึ้นกว่า 30 โครงการ เพิ่มขึ้นกว่า 70% และคาดว่าการลงทุนด้านคอนโดมิเนียมในภูเก็ตจะเกิดขึ้นอีก เพราะภูเก็ตมีข้อจำกัดในเรื่องของที่ดินที่มีไม่มากนัก
สำหรับการลงทุนคอนโดมิเนียมมีทั้งนักลงทุนที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติ และที่กำลังเปิดตัวเป็นโครงการใหญ่ๆ อยู่ก็มีหลายโครงการด้วยกัน เช่น โครงการของกลุ่มพนาสนธิ์ที่บริเวณหลังโรงพยบาลกรุงเทพภูเก็ต ที่มีหลายพันห้อง โครงการของศุภาลัย ในตัวเมืองภูเก็ต เป็นต้น
นายไพทูรย์ ยังกล่าวถึงการเชิญชวนให้ประชาชนชาวภูเก็ตที่ถือเอกสารสิทธิที่ดินที่เป็นส.ค. 1 (หนังสือแสดงการครอบครองการทำประโยชน์ในที่ดิน) เป็นโฉนดที่ดิน ว่า ตามที่กรมที่ดินได้ออกประมวลกฎหมายที่ดินปี 2550 ให้ผู้ที่มีถือครองที่ดินตามเอกสารสิทธิเป็น ส.ค.1 ให้ดำเนินการยื่นเรื่องขอออกโฉนด ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2551 ไปจนถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 นี้
ปรากฏว่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยังมีผู้ที่ถือครองเอกสารสิทธิที่ดินที่เป็นส.ค. 1 ที่ยังไม่ได้มายื่นเรื่องเพื่อขอออกโฉนดที่ดินอีกประมาณ 2,200-2,300 แปลง โดยจะต้องยื่นเรื่องขอออกเอกสารสิทธิ์ภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 นี้เท่านั้น
ขณะนี้เหลือเวลาประมาณ 30 กว่าวันเท่านั้น จึงอยากที่จะให้เจ้าที่ของที่ดินที่ถือเอกสารสิทธิเป็นส.ค.1 มายื่นเรื่องในวันและเวลาดังกล่าว หลังจากนั้นไม่สามารถที่จะมายื่นเรื่องขอออกเอกสารสิทธิที่สำนักงานที่ดินได้อีก ผู้ที่ครอบครองส.ค.1 ที่ต้องการจะออกเอกสารสิทธิที่ดินเป็นโฉดนจะต้องยื่นเรื่องผ่านทางศาลให้ศาลสั่งเท่านั้น
สำหรับส.ค.1 2,000 กว่าแปลง นั้น กระจายอยู่ในพื้นที่อำเภอถลางประมาณ 1,000 แปลง กะทู้ 600 แปลง ส่วนที่เหลือยู่ในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งการออกโฉนดที่ดินจากส.ค.1 ในภูเก็ตนั้นค่อนข้างที่จะยากกว่าในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ เพราะภูเก็ตมีข้อจำกัดเรื่องภูมิศาสตร์ ทั้งเรื่องของอยู่ในเขตป่า อยู่ในพื้นที่ที่มีความลาดชันหรือความสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการออกโฉนดจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากก็อยากจะให้ผู้ที่ครอบครองมายื่นเรื่องไว้ที่สำนักงานที่ดินตามวันและเวลาที่กำหนด ส่วนจะออกได้เมื่อใดนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
นายไพทูรย์ เลิศไกร เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด กล่าวถึง ภาพรวมการลงทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นบ้านจัดสรรและคอนโดมิเนียมในพื้นที่ภูเก็ต ว่า การยื่นขออนุญาตพัฒนาที่ดินเป็นบ้านจัดสรรที่ภูเก็ต ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณ 2553 เป็นต้นมา นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2552 นั้น มีการชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด มีโครงการใหม่เพียงโครงการเดียวเท่านั้นที่ยื่นขอจัดสรรเข้ามา
ทั้งนี้เนื่องจากในปีงบประมาณ 2552 ที่ผ่านมา ผู้ลงทุนบ้านจัดสรรได้ยื่นขอเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทำให้โครงการหลายๆ โครงการที่ได้รับการจัดสรรแล้วอยู่ในระหว่างการขายและการก่อสร้าง
อย่างไรก็ตาม คิดว่าการพัฒนาที่ดินในส่วนของบ้านจัดสรรในภูเก็ต ยังมีอย่างต่อเนื่อง และโดยเฉพาะเมื่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตกลับมาฟื้นตัว ธุรกิจบ้านจัดสรรก็จะขยายตัวตามธุรกิจท่องเที่ยว
ส่วนการพัฒนาที่ดินที่เป็นคอนโดมิเนียม มีการขยายตัวสูงมาก ในปี 2552 ที่ผ่านมามีโครงการที่เป็นคอนโดมิเนียมทั้งขนาดใหญ่และขนาดกลางเกิดขึ้นกว่า 30 โครงการ เพิ่มขึ้นกว่า 70% และคาดว่าการลงทุนด้านคอนโดมิเนียมในภูเก็ตจะเกิดขึ้นอีก เพราะภูเก็ตมีข้อจำกัดในเรื่องของที่ดินที่มีไม่มากนัก
สำหรับการลงทุนคอนโดมิเนียมมีทั้งนักลงทุนที่เป็นคนไทยและคนต่างชาติ และที่กำลังเปิดตัวเป็นโครงการใหญ่ๆ อยู่ก็มีหลายโครงการด้วยกัน เช่น โครงการของกลุ่มพนาสนธิ์ที่บริเวณหลังโรงพยบาลกรุงเทพภูเก็ต ที่มีหลายพันห้อง โครงการของศุภาลัย ในตัวเมืองภูเก็ต เป็นต้น
นายไพทูรย์ ยังกล่าวถึงการเชิญชวนให้ประชาชนชาวภูเก็ตที่ถือเอกสารสิทธิที่ดินที่เป็นส.ค. 1 (หนังสือแสดงการครอบครองการทำประโยชน์ในที่ดิน) เป็นโฉนดที่ดิน ว่า ตามที่กรมที่ดินได้ออกประมวลกฎหมายที่ดินปี 2550 ให้ผู้ที่มีถือครองที่ดินตามเอกสารสิทธิเป็น ส.ค.1 ให้ดำเนินการยื่นเรื่องขอออกโฉนด ตั้งแต่วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2551 ไปจนถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 นี้
ปรากฏว่าในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ยังมีผู้ที่ถือครองเอกสารสิทธิที่ดินที่เป็นส.ค. 1 ที่ยังไม่ได้มายื่นเรื่องเพื่อขอออกโฉนดที่ดินอีกประมาณ 2,200-2,300 แปลง โดยจะต้องยื่นเรื่องขอออกเอกสารสิทธิ์ภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2553 นี้เท่านั้น
ขณะนี้เหลือเวลาประมาณ 30 กว่าวันเท่านั้น จึงอยากที่จะให้เจ้าที่ของที่ดินที่ถือเอกสารสิทธิเป็นส.ค.1 มายื่นเรื่องในวันและเวลาดังกล่าว หลังจากนั้นไม่สามารถที่จะมายื่นเรื่องขอออกเอกสารสิทธิที่สำนักงานที่ดินได้อีก ผู้ที่ครอบครองส.ค.1 ที่ต้องการจะออกเอกสารสิทธิที่ดินเป็นโฉดนจะต้องยื่นเรื่องผ่านทางศาลให้ศาลสั่งเท่านั้น
สำหรับส.ค.1 2,000 กว่าแปลง นั้น กระจายอยู่ในพื้นที่อำเภอถลางประมาณ 1,000 แปลง กะทู้ 600 แปลง ส่วนที่เหลือยู่ในเขตอำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งการออกโฉนดที่ดินจากส.ค.1 ในภูเก็ตนั้นค่อนข้างที่จะยากกว่าในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ เพราะภูเก็ตมีข้อจำกัดเรื่องภูมิศาสตร์ ทั้งเรื่องของอยู่ในเขตป่า อยู่ในพื้นที่ที่มีความลาดชันหรือความสูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าการออกโฉนดจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากก็อยากจะให้ผู้ที่ครอบครองมายื่นเรื่องไว้ที่สำนักงานที่ดินตามวันและเวลาที่กำหนด ส่วนจะออกได้เมื่อใดนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
