ตรัง – ชาวบ้านพบศพนิรนามผูกคอตายกลางป่าในนาร้าง ริมถนนควนขนุน เหลือแต่กระดูกคาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำว่า 3 เดือน เจ้าหน้าที่ส่งตรวจพิสูจน์รอผลดีเอ็นเอ คาดอาจเป็นชายวัย 56 หนีออกจากบ้านเมื่อ 3 เดือนที่แล้ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งว่า มีผู้ศพคนผูกคอตาย กลางป่าในนาร้าง บนถนน ควนขนุน อ.เมือง จ.ตรัง ในเขตเทศบาลนครตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบรุดไปยังเกิดเหตุ ทั้งนี้ สถานที่ดังกล่าวเป็นนาร้าง ส่วนใหญ่จะมีคนนำโคไปเลี้ยง หรือนำนกไปแขวนฝึกเสียงนกอยู่เป็นประจำ แต่ไม่มีใครเห็นศพเลย จนกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา คุณลุงผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้เดินทางเข้าไปที่นี่เพื่อตัดต้นไม่ไปทำเป็นไม้ฟืน และพบเศษกระดูกตั้งอยู่ จึงเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าเป็นกะโหลกของมนุษย์ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่ น่าจะเป็นศพของผู้ชายมากกว่า เพราะใช้ผ้าขาวม้าในการผูกคอตาย แต่จากเศษกระดูกที่ปรากฏนั้น ไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนนักว่าเป็นศพของใครกันแน่ จึงเชิญแพทย์เวรจากโรงพยาบาลตรังมาตรวจสอบ แต่เนื่องจากศพเหลือแต่กระดูกซึ่งคาดว่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ทางโรงพยาบาลตรังจึงส่งหลักฐานไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์เพื่อตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งจะให้ผลได้ชัดเจนกว่า
ทั้งนี้เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งว่ามีคนสูญหาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดต่อไปยังญาติเพื่อมาดูศพ นายทวี เทพยศ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นญาติผู้สูญหาย ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้สูญหายชื่อนายประทวน โจงจาบ อายุ 56 ปี ไม่มีครอบครัว ได้หายออกจากบ้านเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว โดยก่อนที่จะหายไปได้บ่นกับมารดาว่า ตนอยู่ไม่ได้แล้วเพราะกลัวว่าจะมีคนมายึดบ้าน แต่ความจริงแล้วผู้สูญหายไม่ได้มีหนี้สินอะไรเลย และได้เดินทางออกมาจากบ้านตอนประมาณเที่ยงคืน โดยนุ่งผ้าขาวม้ามาผืนเดียวและไม่ได้ใส่รองเท้ามาด้วย และยืนยันว่าผ้าขาวผ้าที่ใช้ผูกคอตายนั้นมีลักษณะเหมือนกับของนายประทวน และมั่นใจว่าศพนี้ต้องเป็นศพของนายประทวนแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอ จากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.สงขลาก่อน เพื่อความชัดเจน ว่าเป็นศพของนายประทวนจริงหรือไม่
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งว่า มีผู้ศพคนผูกคอตาย กลางป่าในนาร้าง บนถนน ควนขนุน อ.เมือง จ.ตรัง ในเขตเทศบาลนครตรัง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรีบรุดไปยังเกิดเหตุ ทั้งนี้ สถานที่ดังกล่าวเป็นนาร้าง ส่วนใหญ่จะมีคนนำโคไปเลี้ยง หรือนำนกไปแขวนฝึกเสียงนกอยู่เป็นประจำ แต่ไม่มีใครเห็นศพเลย จนกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคมที่ผ่านมา คุณลุงผู้ไม่ประสงค์ออกนามได้เดินทางเข้าไปที่นี่เพื่อตัดต้นไม่ไปทำเป็นไม้ฟืน และพบเศษกระดูกตั้งอยู่ จึงเข้าไปดูใกล้ๆ พบว่าเป็นกะโหลกของมนุษย์ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ
จากการตรวจสอบเบื้องต้นคาดว่ น่าจะเป็นศพของผู้ชายมากกว่า เพราะใช้ผ้าขาวม้าในการผูกคอตาย แต่จากเศษกระดูกที่ปรากฏนั้น ไม่สามารถยืนยันได้ชัดเจนนักว่าเป็นศพของใครกันแน่ จึงเชิญแพทย์เวรจากโรงพยาบาลตรังมาตรวจสอบ แต่เนื่องจากศพเหลือแต่กระดูกซึ่งคาดว่าจะเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน ทางโรงพยาบาลตรังจึงส่งหลักฐานไปตรวจสอบที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์เพื่อตรวจดีเอ็นเอ ซึ่งจะให้ผลได้ชัดเจนกว่า
ทั้งนี้เมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งว่ามีคนสูญหาย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงติดต่อไปยังญาติเพื่อมาดูศพ นายทวี เทพยศ อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นญาติผู้สูญหาย ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้สูญหายชื่อนายประทวน โจงจาบ อายุ 56 ปี ไม่มีครอบครัว ได้หายออกจากบ้านเมื่อประมาณ 3 เดือนที่แล้ว โดยก่อนที่จะหายไปได้บ่นกับมารดาว่า ตนอยู่ไม่ได้แล้วเพราะกลัวว่าจะมีคนมายึดบ้าน แต่ความจริงแล้วผู้สูญหายไม่ได้มีหนี้สินอะไรเลย และได้เดินทางออกมาจากบ้านตอนประมาณเที่ยงคืน โดยนุ่งผ้าขาวม้ามาผืนเดียวและไม่ได้ใส่รองเท้ามาด้วย และยืนยันว่าผ้าขาวผ้าที่ใช้ผูกคอตายนั้นมีลักษณะเหมือนกับของนายประทวน และมั่นใจว่าศพนี้ต้องเป็นศพของนายประทวนแน่นอน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ต้องรอผลตรวจดีเอ็นเอ จากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.สงขลาก่อน เพื่อความชัดเจน ว่าเป็นศพของนายประทวนจริงหรือไม่