ตรัง - สรุปวันแรกช่วง 7 วันอันตราย เทศกาลปีใหม่ 2553 เกิดอุบัติเหตุทางถนนแล้ว 10 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 10 คน แต่ยังไม่มีผู้เสียชีวิต สาเหตุหลักมาจากเมาสุรา และทำความผิดไม่มีใบขับขี่สูงสุด
วันนี้ (30 ธ.ค.) ศูนย์ปฎิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ได้สรุปผลการปฎิบัติงานในช่วง 7 วัน เฝ้าระวังอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม - 4 มกราคม 2553 ว่า ในช่วงวันที่ 29 ธันวาคม 2552 หรือในช่วงวันแรกนั้น ปรากฏว่า มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นแล้วรวม 10 ครั้ง โดยอำเภอเมืองตรัง เกิดขึ้นสูงสุด 4 ครั้ง รองลงมาคือ อำเภอวังวิเศษ และนาโยง อำเภอละ 2 ครั้งเท่ากัน ตามมาด้วยอำเภอย่านตาขาว และกันตัง อำเภอละ 1 ครั้งเท่ากัน มีผู้บาดเจ็บแล้วรวม 10 คน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
สำหรับสาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุทางถนน สูงสุดคือ เมาสุรา คิดเป็นร้อยละ 37.5 รองลงมาคือ ตัดหน้ากระชั้นชิด และมีสิ่งกีดขวาง คิดเป็นร้อยละ 25 เท่ากัน และทัศนวิสัยไม่ดี คิดเป็นร้อยละ 12.50
ส่วนประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุทางถนน สูงสุดคือ รถจักรยานยนต์ คิดเป็นร้อยละ 70 รองลงมาคือ รถจักรยาน คิดเป็นร้อยละ 20 และรถปิกอัพ คิดเป็นร้อยละ 10 ขณะที่ประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุทางถนน สูงสุดคือ ถนน อบต./ หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 60 รองลงมาคือ ถนนในเมือง/ เทศบาล คิดเป็นร้อยละ 40
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเรียกตรวจยานพาหนะชนิดต่างๆ ตามมาตรการ 3ม. 2ข. 1ร. นั้น ปรากฎว่า มีการเรียกตรวจรถรวมทั้งสิ้น 6,587 คัน และมีผู้ถูกดำเนินคดี 123 คน สูงสุดคือ ไม่มีใบขับขี่ 84 คน รองลงมาคือ ไม่สวมหมวกนิรภัย 36 คน และมอเตอร์ไซด์ไม่ปลอดภัย 3 คน นอกจากนั้น ยังมีผู้ถูกดำเนินคดีตาม 4 มาตรการเพิ่มเติมอีก 32 คน สูงสุดคือ ฝ่าฝืนสัญญาญไฟ 26 คน รองลงมาคือ ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ 6 คน
วันนี้ (30 ธ.ค.) ศูนย์ปฎิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2553 ได้สรุปผลการปฎิบัติงานในช่วง 7 วัน เฝ้าระวังอันตราย ระหว่างวันที่ 29 ธันวาคม - 4 มกราคม 2553 ว่า ในช่วงวันที่ 29 ธันวาคม 2552 หรือในช่วงวันแรกนั้น ปรากฏว่า มีอุบัติเหตุทางถนนเกิดขึ้นแล้วรวม 10 ครั้ง โดยอำเภอเมืองตรัง เกิดขึ้นสูงสุด 4 ครั้ง รองลงมาคือ อำเภอวังวิเศษ และนาโยง อำเภอละ 2 ครั้งเท่ากัน ตามมาด้วยอำเภอย่านตาขาว และกันตัง อำเภอละ 1 ครั้งเท่ากัน มีผู้บาดเจ็บแล้วรวม 10 คน แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
สำหรับสาเหตุและพฤติกรรมเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุทางถนน สูงสุดคือ เมาสุรา คิดเป็นร้อยละ 37.5 รองลงมาคือ ตัดหน้ากระชั้นชิด และมีสิ่งกีดขวาง คิดเป็นร้อยละ 25 เท่ากัน และทัศนวิสัยไม่ดี คิดเป็นร้อยละ 12.50
ส่วนประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุทางถนน สูงสุดคือ รถจักรยานยนต์ คิดเป็นร้อยละ 70 รองลงมาคือ รถจักรยาน คิดเป็นร้อยละ 20 และรถปิกอัพ คิดเป็นร้อยละ 10 ขณะที่ประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุทางถนน สูงสุดคือ ถนน อบต./ หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 60 รองลงมาคือ ถนนในเมือง/ เทศบาล คิดเป็นร้อยละ 40
อย่างไรก็ตาม สำหรับการเรียกตรวจยานพาหนะชนิดต่างๆ ตามมาตรการ 3ม. 2ข. 1ร. นั้น ปรากฎว่า มีการเรียกตรวจรถรวมทั้งสิ้น 6,587 คัน และมีผู้ถูกดำเนินคดี 123 คน สูงสุดคือ ไม่มีใบขับขี่ 84 คน รองลงมาคือ ไม่สวมหมวกนิรภัย 36 คน และมอเตอร์ไซด์ไม่ปลอดภัย 3 คน นอกจากนั้น ยังมีผู้ถูกดำเนินคดีตาม 4 มาตรการเพิ่มเติมอีก 32 คน สูงสุดคือ ฝ่าฝืนสัญญาญไฟ 26 คน รองลงมาคือ ใช้โทรศัพท์ขณะขับรถ 6 คน