นราธิวาส – ผู้ว่าฯ จ.นราธิวาสออกเตือนปชช. ห้ามใช้มาเลเซียเป็นฐานผลิตระเบิดหรือสะสมอาวุธส่งมาก่อเหตุในไทยเด็ดขาด พร้อมวอนชาวบ้านช่วยเหลือทางการหูเป็นตา สร้างสงบสุขในสังคม
นายธนน เวชกรกานนท์ ผวจ.นราธิวาส กล่าวว่า ตามที่ทางการรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้จับกุมคนไทย 3 คนพร้อมวัตถุระเบิด เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม และเมื่อวันที่ 22 ธันวา คมได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่ม อีก 8 คน รวมเป็น 11 คน แล้วนั้น เป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่าทาง การมาเลเซียให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับรัฐบาลไทยเป็นอย่างมาก
จึงขอเตือนไปถึงชาวบ้านว่า อย่าใช้ประเทศมาเลเซียเป็นฐานผลิตระเบิดหรือสะสมอาวุธแล้วนำกลับเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยเป็นอันขาด
ในขณะเดียวกันก็ห้ามนำอาวุธจากประเทศไทยเข้าไปในประเทศมาเลเซียโดยเด็ดขาด เพราะผู้ครอบครองอาวุธ ตามกฎหมายของประเทศมาเลเซีย มีโทษที่หนักมากถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียวเท่านั้น
คนร้ายที่ก่อเหตุร้ายขึ้นในประเทศไทยแล้วหลบหนีเข้าไปกบดานในประเทศมาเลเซียนั้น ทางจังหวัดนราธิวาส ได้ประสานให้ทางการมาเลเซียช่วยจับกุมตัวเพื่อส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประ เทศไทยแล้ว
“ทางการได้ขอความร่วมมือไปยังชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย ในแต่ละอำเภอ ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาคอยแจ้งเบาะแส เพื่อป้องกันคนร้ายหลบหนีออกนอกประเทศหลังก่อคดี และเพื่อป้องกันคนร้ายที่หลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแอบเล็ดลอดเข้ามาก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ไว้ทุกเส้นทางแล้วด้วย" นายธนน ผวจ.นราธิวาส กล่าว
นายธนน เวชกรกานนท์ ผวจ.นราธิวาส กล่าวว่า ตามที่ทางการรัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ได้จับกุมคนไทย 3 คนพร้อมวัตถุระเบิด เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม และเมื่อวันที่ 22 ธันวา คมได้ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้เพิ่ม อีก 8 คน รวมเป็น 11 คน แล้วนั้น เป็นการบ่งชี้ให้เห็นว่าทาง การมาเลเซียให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาเหตุความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้กับรัฐบาลไทยเป็นอย่างมาก
จึงขอเตือนไปถึงชาวบ้านว่า อย่าใช้ประเทศมาเลเซียเป็นฐานผลิตระเบิดหรือสะสมอาวุธแล้วนำกลับเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยเป็นอันขาด
ในขณะเดียวกันก็ห้ามนำอาวุธจากประเทศไทยเข้าไปในประเทศมาเลเซียโดยเด็ดขาด เพราะผู้ครอบครองอาวุธ ตามกฎหมายของประเทศมาเลเซีย มีโทษที่หนักมากถึงขั้นประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิตสถานเดียวเท่านั้น
คนร้ายที่ก่อเหตุร้ายขึ้นในประเทศไทยแล้วหลบหนีเข้าไปกบดานในประเทศมาเลเซียนั้น ทางจังหวัดนราธิวาส ได้ประสานให้ทางการมาเลเซียช่วยจับกุมตัวเพื่อส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในประ เทศไทยแล้ว
“ทางการได้ขอความร่วมมือไปยังชาวบ้านที่อาศัยอยู่ตามตะเข็บชายแดนไทย-มาเลเซีย ในแต่ละอำเภอ ให้ช่วยเป็นหูเป็นตาคอยแจ้งเบาะแส เพื่อป้องกันคนร้ายหลบหนีออกนอกประเทศหลังก่อคดี และเพื่อป้องกันคนร้ายที่หลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านแอบเล็ดลอดเข้ามาก่อเหตุร้ายขึ้นในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ไว้ทุกเส้นทางแล้วด้วย" นายธนน ผวจ.นราธิวาส กล่าว
