ตรัง - พระลูกวัดก้างปลา อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิดอาการคลุ้มคลั่งอาละวาดที่สถานีรถไฟตรัง หลังเดินทางกลับจากวัดธรรมกาย โวยวายจะเดินทางโดยรถไฟต่อไปยังประเทศอินเดีย
วันนี้ (23 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่ศนูย์วิทยุ 191 สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจรถไฟ ประจำสถานีรถไฟตรัง ว่ามีพระภิกษุสงฆ์รูปหนึ่งโวยวายอาละวาดอยู่บนขบวนรถไฟ ขบวนรถเร็ว กรุงเทพฯ-ตรัง ที่เพิ่งเดินทางมาถึงชานชาลาสถานีรถไฟตรัง เมื่อเวลา 10.50 น.ที่ผ่านมา โดยพูดจาโวยวายอ้างว่าจะเดินทางต่อไปยังประเทศอินเดีย โดยขบวนรถไฟขบวนดังกล่าว และไม่ยอมลงมาจากขบวนรถ จากนั้นได้วิทยุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองตรัง เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรัง
ทั้งนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบพระรูปดังกล่าวจริง ซึ่งได้มีชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก และมีชาวบ้านบางคนมาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมให้พระรูปดังกล่าวลงมาจากขบวนรถไฟ โดยหลอกล่อว่าจะให้ไปขึ้นรถคันอื่นเพื่อเดินทางไปยังประเทศอินเดียแทน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและชาวบ้าน ได้ใช้เวลาเจราจานานกว่า 30 นาที ก่อนที่จะทำให้พระรูปดังกล่าวสงบสติลงมาได้เล็กน้อย และยินยอมขึ้นรถของมูลนิธิกุศลสถานตรัง เพื่อไปพบกับพระโสภณปริยัติยาธร เจ้าคณะจังหวัดตรัง และรองเจ้าอาวาสวัดกะพังสุรินทร์ (พระอารามหลวง) เพื่อทำการตรวจสอบว่าเป็นพระจากวัดใดนั้น
จากนั้น เมื่อพระโสภณปริยัติยาธร เจ้าคณะจังหวัดตรัง ได้สอบถามพูดคุยกับพระรูปดังกล่าว ได้ความว่า เป็นพระลูกวัดกางปลา อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช มีชื่อว่า พระญาณวิทย์ ญานะวิโรจน์ มีอายุ 31 ปี ซึ่งได้บวชมาแล้ว 4 ปี และก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปเป็นพระพี่เลี้ยงที่วัดพระธรรมกาย ก่อนที่จะเดินทางกลับด้วยการโดยสารขบวนรถรถเร็ว กรุงเทพฯ-ตรัง เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 22 ธันวาคม 2552 ที่ผ่านมา แต่มาเกิดอาการคุ้มคลั่งระหว่างทาง โดยที่พระญาณวิทย์มีความตั้งใจว่าจะเดินทางไปประเทศอินเดีย เพื่อที่สักการะต้นโพธิ์ โดยมีพระอาจารย์ของพระญาณวิทย์ ได้เดินทางไปรออยู่ที่ประเทศอินเดียแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อพระโสภณปริยัติยาธร เจ้าคณะจังหวัดตรัง ได้ตรวจสอบไปยังวัดก้างปลา อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช พบว่า พระญาณวิทย์เป็นพระลูกวัดจริง จึงได้ให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลสถานตรังนำตัวพระญาณวิทย์ไปส่งยังวัดกางปลา เพื่อที่จะให้พระอุปัชฌาย์ของพระญาณวิทย์ดำเนินการต่อไป เนื่องจากเป็นพระต่างพื้นที่รับผิดชอบ และไม่ได้เป็นพระในความดูแล จึงไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้