นครศรีธรรมราช – ตำรวจเมืองนครศรีธรรมราชรวบแก๊งทวงหนี้นอกระบบ 2 ราย จำนวน 4 คน ก่อนที่กลุ่มแม่ค้าปากพนังตามมาชี้ตัวพร้อมแจ้งความจับกว่า 10 คน
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (15 ธ.ค.) พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มแก๊งทวงหนี้นอกระบบคอยตามทวงหนี้และข่มขู่ลูกหนี้หลายรายในพื้นที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ พบว่าที่บริเวณวัดเขมวงศาตาม ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง มีชาย 2 คน คือนายจิณณวัตร จุ้นมะณี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 ม.4 ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม และนายสุภาพ สมบูรณ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.5 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ขับรถ จักรยานยนต์ไปเก็บเงินจากบรรดาแม่ค้าอยู่ตามร้านค้าต่างๆ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็แสดงท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบและจับกุมตัวทั้งสองไว้พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 13,000 บาท และโพยรายชื่อลูกค้าอีกจำนวนหนึ่ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดเดิมรับแจ้งว่าที่บริเวณสามแยกบางควาย ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช มีกลุ่มชายวัยรุ่น 2 คนขับขี่รถ จักรยานยนต์มาข่มขู่ทวงหนี้บรรดาแม่ค้า จึงเดินทางไปตรวจสอบพบจับกุมชายอีก 2 คน คือนายวิชัย โพธิ์เผือก อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/8 ม.9 ต.ชะอำ อ.ชะอำ เพชรบุรี และนายสุริยะ โพธิ์ทอง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.9 ต.บางไผ่ อ.บางมูลนาค จ.พิจิตร พร้อมของกลางเงินสดและโพยรายชื่อลูกค้า จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รวม 4 คน ไปทำการสอบสวนที่ สภ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช พร้อมกับตั้งข้อกล่าวหาให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ต่อมาได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกค้าของแก๊งทวงหนี้ดังกล่าวเดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 8 ราย ซึ่งมีอาชีพค้าขายได้ให้การว่า บางคนกู้ยืมเงินของแก๊งดังกล่าวอย่างต่ำจำนวน 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ส่งคืนเป็นรายวัน วันละ 50 บาท รวมทั้งต้นทั้งดอกต้องให้หมดภายใน 24 วัน ส่วนคนที่กู้ยืม 3,000 บาท จะส่งวันละ 150 บาทต่อวัน ภายใน 24 วัน คนที่กู้ยืม 5,000 บาท ต้องส่งวันละ 250 บาท 24 วัน และคนที่กู้ยืม 10,000 บาท ต้องส่งวันละ 500 บาท ภายใน 24 วันเช่นกัน ซึ่งบางวันถ้าผู้เสียหายไม่มีเงินส่งก็จะถูกข่มขู่ต่างๆ นานา หรือบางครั้งไม่ได้จริงๆ ก็จะยึดสิ่งของภายในบ้านไว้อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ลูกหนี้เป็นอย่างมาก เพราะต้องหาเงินมาให้ได้ทุกวัน มิเช่นนั้นจะถูกแก๊งทวงหนี้ตามทวงตลอดเวลา
และการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ระบุว่ามีนายจ้างคนละรายกัน ได้รับจ้างมาจากนายทุนซึ่งมาเช่าบ้านพร้อมอาหารการกินพร้อม และให้เงินเดือนคนละ 5,000 บาทต่อเดือน ทุกวันจะตามเก็บเงินจากลูกค้าของผู้ว่าจ้างตามบัญชีรายชื่อลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องหาเงินมาหมุนทุกวัน ถ้าหากลูกค้าไม่มีเงินส่งก็จะแจ้งให้ทางนายจ้างทราบก่อนจะมีการดำเนินการอย่างใดย่างหนึ่งเพื่อเป็นการข่มขู่ให้ลูกค้ากลัว กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวในที่สุด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลา 15.30 น.วันนี้ (15 ธ.ค.) พ.ต.ท.โชคดี ศรีเมือง รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวน ภ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีกลุ่มแก๊งทวงหนี้นอกระบบคอยตามทวงหนี้และข่มขู่ลูกหนี้หลายรายในพื้นที่ อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจสอบ พบว่าที่บริเวณวัดเขมวงศาตาม ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง มีชาย 2 คน คือนายจิณณวัตร จุ้นมะณี อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 13/2 ม.4 ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม และนายสุภาพ สมบูรณ์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 ม.5 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ขับรถ จักรยานยนต์ไปเก็บเงินจากบรรดาแม่ค้าอยู่ตามร้านค้าต่างๆ เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ก็แสดงท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงเข้าทำการตรวจสอบและจับกุมตัวทั้งสองไว้พร้อมของกลางเงินสดจำนวน 13,000 บาท และโพยรายชื่อลูกค้าอีกจำนวนหนึ่ง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดเดิมรับแจ้งว่าที่บริเวณสามแยกบางควาย ต.ปากพนังฝั่งตะวันออก อ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช มีกลุ่มชายวัยรุ่น 2 คนขับขี่รถ จักรยานยนต์มาข่มขู่ทวงหนี้บรรดาแม่ค้า จึงเดินทางไปตรวจสอบพบจับกุมชายอีก 2 คน คือนายวิชัย โพธิ์เผือก อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/8 ม.9 ต.ชะอำ อ.ชะอำ เพชรบุรี และนายสุริยะ โพธิ์ทอง อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53 ม.9 ต.บางไผ่ อ.บางมูลนาค จ.พิจิตร พร้อมของกลางเงินสดและโพยรายชื่อลูกค้า จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย รวม 4 คน ไปทำการสอบสวนที่ สภ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช พร้อมกับตั้งข้อกล่าวหาให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และผู้ต้องหาทั้ง 4 คนให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
ต่อมาได้มีผู้เสียหายซึ่งเป็นลูกค้าของแก๊งทวงหนี้ดังกล่าวเดินทางมาให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 8 ราย ซึ่งมีอาชีพค้าขายได้ให้การว่า บางคนกู้ยืมเงินของแก๊งดังกล่าวอย่างต่ำจำนวน 1,000 บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 20 ส่งคืนเป็นรายวัน วันละ 50 บาท รวมทั้งต้นทั้งดอกต้องให้หมดภายใน 24 วัน ส่วนคนที่กู้ยืม 3,000 บาท จะส่งวันละ 150 บาทต่อวัน ภายใน 24 วัน คนที่กู้ยืม 5,000 บาท ต้องส่งวันละ 250 บาท 24 วัน และคนที่กู้ยืม 10,000 บาท ต้องส่งวันละ 500 บาท ภายใน 24 วันเช่นกัน ซึ่งบางวันถ้าผู้เสียหายไม่มีเงินส่งก็จะถูกข่มขู่ต่างๆ นานา หรือบางครั้งไม่ได้จริงๆ ก็จะยึดสิ่งของภายในบ้านไว้อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ลูกหนี้เป็นอย่างมาก เพราะต้องหาเงินมาให้ได้ทุกวัน มิเช่นนั้นจะถูกแก๊งทวงหนี้ตามทวงตลอดเวลา
และการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ระบุว่ามีนายจ้างคนละรายกัน ได้รับจ้างมาจากนายทุนซึ่งมาเช่าบ้านพร้อมอาหารการกินพร้อม และให้เงินเดือนคนละ 5,000 บาทต่อเดือน ทุกวันจะตามเก็บเงินจากลูกค้าของผู้ว่าจ้างตามบัญชีรายชื่อลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องหาเงินมาหมุนทุกวัน ถ้าหากลูกค้าไม่มีเงินส่งก็จะแจ้งให้ทางนายจ้างทราบก่อนจะมีการดำเนินการอย่างใดย่างหนึ่งเพื่อเป็นการข่มขู่ให้ลูกค้ากลัว กระทั่งมาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวในที่สุด หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากพนัง นครศรีธรรมราช เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป