กระบี่ - พระสำนักสงฆ์เทพประธารพรในพื้นที่ตำบลทับปริก เมืองกระบี่ ชาวบ้านงดใส่บาตรต้องขับมอเตอร์ไซค์ออกบิณฑบาตรนอกหมู่บ้าน ระยะทางกว่า 8 กิโลเมตร ระบุไม่ผิดวินัย
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน หมู่ที่ 3 บ้านหนองพูด ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ ว่ามีพระสำนักสงฆ์เทพประธานพร ชื่อพระทศภณชนะ กมมฺสุทโธ ขับรถมอเตอร์ไซค์ ออกบิณฑบาตร โดยไม่สนใจสายตาชาวบ้านมาเป็นเวลา 3 เดือนน่าจะผิดวินัย จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบพระทศภณชนะ ได้ขับรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ ฮอนด้า โนวาแด็ด สีม่วง ป้ายทะเบียน กลฉ 866 สุราษฎร์ธานี สภาพเก่า ออกมาจากสำนักสงฆ์ นุ่งสบง สวมอังสะ จีวรพาดหัวไหลผูกติดกับลำตัว พร้อมกระเป้าสะพายบาตร ขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจ ไปตามถนนสายทับปริก - คลองใหญ่ ระยะทาง 8 กิโลเมตร
เมื่อถึงปากทางคลองใหญ่ ต.กระบี่ใหญ่ อ.เมืองกระบี่ พระทศภณชนะ ได้จอดรถไว้บนฟุตบาด จากนั้นก็ได้ห่มจีวร เดินออกบิณฑบาตรบริเวณบ้านตลาดเก่า ต.กระบี่ใหญ่ ใช้เวลาในการออกบิณฑบาตรประมาณ 1 ชั่วโมง ได้เดินกลับ พร้อมด้วยอาหารข้าวของเต็มบาตร โดยก่อนขึ้นรถกลับก็ปลดจีวรออก เหลือแต่สบง และอังสะ ขับรถออกไปโดยไม่สนใจใคร มุ่งหน้ากลับสำนักสงฆ์ท่ามกลางเสียงวิภาควิจารณ์กับพฤติกรรมของพระรูปนี้ว่าไม่เหมาะสม
พระทศภณชนะ กมมฺสุทโธ อายุ 62 ปี กล่าวว่า ถูกชาวบ้านในหมู่บ้านในตำบลทับปริกกลั่นแกล้ง และไล่ให้ออกจากสำนักสงฆ์เทพประธานพรอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะถือว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ส่วนที่มีปัญหากับชาวบ้านเนื่องจากไปพูดให้ชาวบ้านเลิกหาผลประโยชน์ในสำนักสงฆ์ และเมื่อไม่มีใครใส่บาตรก็ต้องช่วยเหลือตัวเอง โดยการขับรถมอเตอร์ไซค์ออกบิณฑบาตร บริเวณบ้านตลาดเก่าแทน ซึ่งก็ได้มีการพูดคุยกับทางเจ้าคณะตำบลทับปริกไปแล้ว ว่าสามารถทำได้ เนื่องจากระยะทางไกล
จากการสอบถามนายศุภชัย เกิดสุข กำนันตำบลทับปริก ทราบว่า สำหรับพระทศภณชนะ สาเหตุที่ต้องเดินทางออกไปบิณฑบาตรข้างนอก เนื่องจากชาวบ้านสุดทนกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ชอบดุด่าชาวบ้าน หาว่าชาวบ้านบุกรุกป่า ตัดต้นไม้ และเข้ามาหาผลประโยชน์ในสำนักสงฆ์ฯทำให้ชาวบ้านไม่พอใจและไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสำนักสงฆ์แห่งนี้อีกเลย
นอกจากนี้ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านก็ไม่ยอมใส่บาตรให้พระทศภณชนะ และต้องการพระรูปอื่นมาปฏิบัติธรรมแทนถึงกับออกปากขับไล่ และสิ่งที่ชาวบ้านรับไม่ได้มากขึ้นคือการขับรถมอเตอร์ไซค์ออกบิณฑบาต
